ชัยภูมิ 13 ก.ย.-รพ.ชัยภูมิ เตือนประชาชนระวังการเก็บเห็ดป่ามาปรุงอาหารช่วงฤดูฝน หลัง เด็กชายวัย 7 ขวบ กินอาหารที่ทำจากเห็ด แล้วตับวายเสียชีวิต พบเป็นเห็ดพิษชนิดรุนแรง
ที่จังหวัดชัยภูมิ จากกรณีเด็กชายภูวเดช ภูวดลผาแดง วัย 7 ขวบ เด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลแก้งคร้อ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ กินอาหารทำจากเห็ดที่ยายออกไปเก็บมาปรุงเป็นอาหารให้กินหลังกลับจากโรงเรียนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา วันนี้นายแพทย์ ประเสริฐ ชัยวิรัตนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยภูมิ แถลงถึงสาเหตุการเสียชีวิตของ ด.ช.ภูวเดช ว่าเสียชีวิตเนื่องจากทานเห็ดพิษชนิดรุนแรงเข้าไปมากจนทำให้ตับวาย โดยวันเกิดเหตุญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแก้งคร้อและส่งตัวต่อมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชัยภูมิเพื่อทำการล้างท้องช่วยชีวิต แต่เด็กชายภูวเดชได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งแพทย์ได้เร่งยื้อชีวิตจนสุดความสามารถแล้ว
นายแพทย์ ประเสริฐ ยังฝากเตือนไปยังพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวชัยภูมิ ที่พากันออกไปหาเห็ดตามป่าเขามารับประทานในช่วงหน้าฝน ว่าทุกปีจะพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากการกินเห็ดพิษ เนื่องจากเห็ดป่ามีทั้งเห็ดที่กินได้และเห็ดพิษ ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก อาจทำให้เข้าใจผิดได้ สำหรับเห็ดที่เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตส่วนใหญ่ คือ เห็ดระโงกพิษ บางแห่งเรียกว่าเห็ดระโงกหิน เห็ดระงาก หรือเห็ดไข่ตายซาก ซึ่งเห็ดชนิดนี้คล้ายคลึงกับเห็ดระโงกขาว หรือไข่ห่าน ที่สามารถกินได้ แต่แตกต่างกัน คือ เห็ดระโงกพิษจะมีก้านสูง กลางดอกหมวกจะนูนเล็กน้อย มีกลิ่นค่อนข้างแรง นอกจากนี้ยังมีเห็ดป่าชนิดที่มีพิษรุนแรงคือ เห็ดเมือกไครเหลือง โดยประชาชนมักสับสนกับเห็ดขิง ซึ่งชนิดที่เป็นพิษจะมีเมือกปกคลุมและมีสีดอกเข้มกว่า ซึ่งยากแก่การสังเกตด้วยตาเปล่า
ทั้งนี้ ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ใช้ทดสอบความเป็นพิษของเห็ด เช่น การจุ่มช้อนเงินลงไปในหม้อต้มเห็ด การนำไปต้มกับข้าวสาร หรือใช้ปูนกินหมากป้ายที่ดอกเห็ด ถ้าเป็นเห็ดพิษจะกลายเป็นสีดำ เป็นต้น วิธีเหล่านี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการอ้างอิงในการใช้ทดสอบพิษกับเห็ดกลุ่มนี้ได้ โดยเฉพาะเห็ดระโงกพิษที่มีสารที่ทนต่อความร้อน แม้จะปรุงให้สุกแล้ว เช่น ต้ม แกง ก็ไม่สามารถทำลายสารพิษนั้นได้
สำหรับอาการหลังกินเห็ดพิษ จะคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือถ่ายอุจจาระเหลว ไม่ควรซื้อยากินเองหรือไปรักษากับหมอพื้นบ้าน การช่วยเหลือในเบื้องต้นคือ กระตุ้นให้ผู้ป่วยอาเจียน โดยให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ล้วงคอให้อาเจียน หรือดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือแกงแล้วล้วงคอให้อาเจียนออกมา แต่วิธีนี้ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จากนั้นรีบพาไปพบแพทย์ทันที.-สำนักข่าวไทย