ตลท. 10 ก.ย. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ โชว์ผลตอบแทนในรอบ 13 ปี สูงถึงร้อยละ 143 ติด 1 ใน 5 ตลาดหุ้นโลก พร้อมมูลค่าระดมทุนเป็นแชมป์อาเซียน
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า สิ้นเดือนสิงหาคม 2562 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดที่ 1,654.92 จุด ลดลงร้อยละ 3.3 จากสิ้นเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 จากสิ้นปี 2561 ในสกุลเงินบาท แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นรองแค่ตลาดหลักทรัพย์จีน ส่วนมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 65,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และมีแนวโน้มเข้าใกล้ระดับสูงสุดเดิมเมื่อเดือนมกราคม 2561
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบันดัชนีหุ้นไทยให้ผลตอบแทนร้อยละ 143 ติดอันดับ 1 ใน 5 เมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์สำคัญของโลก โดยตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่ม TIP คือ ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ให้ผลตอบแทนอันดับสูงใกล้เคียงกัน ดังนั้น อยากให้นักลงทุนมองการลงทุนระยะยาว ซึ่งจะให้ผลตอบแทนสูง และอย่าตื่นตระหนกกับกระแสข่าว หรือปัจจัยที่เข้ามากดดัน อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความคืบหน้าสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน การประท้วงในฮ่องกง และความเสี่ยงที่อาจเกิด no-deal Brexit แต่ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวก คือ การที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส จะปรับเพิ่มเครดิตเรทติ้งประเทศไทย จาก Baa1 เป็น A3 ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และดึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้าไทยมากขึ้น
นายศรพล กล่าวด้วยว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการระดมทุนในตลาดแรก (IPO) ของไทยอยู่ที่ระดับ 22,839 ล้านบาท ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน และเชื่อว่าปีนี้การระดมทุนของหุ้น IPO จะได้ตามเป้าหมายที่ 250,000 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย