ภูมิภาค 4 ก.ย.- ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย พยายามสอบถามอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเกี่ยวกับกรณีของ “บิลลี่” แต่ล่าสุด ได้รับการปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ ขณะที่ รมว.ทรัพยากรฯ เตรียมสั่งย้ายข้าราชการเปิดทางตรวจสอบคดี
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ประจำจังหวัดอุบลราชธานี พยายามติดต่อเข้าพบนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 เพื่อสอบถามความเห็นในฐานะที่เคยเป็นอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เกี่ยวกับคดีของ “บิลลี่” ที่หายตัวไปหลายปีก่อน แต่ DSI เพิ่งพบหลักฐานใหม่และมีการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวไม่ได้พบนายชัยวัฒน์ เพราะแจ้งว่าไม่อยู่ที่ทำงาน ออกไปตรวจดูน้ำท่วม ไม่ทราบว่าจะกลับมาเมื่อใด
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับนายชัยวัฒน์ ทางโทรศัพท์ ได้รับแจ้งว่าไปราชการที่ อ.โขงเจียม แต่ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว เพราะคดีไม่เกี่ยวข้องหรือกล่าวหาตนแต่อย่างใด
ด้านนายสมัคร ดอนนาปี อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ในช่วงปี 2557 ระบุว่า ช่วงที่เกิดเหตุ มีภารกิจที่พะเนินทุ่งใน อช.แก่งกระจาน เคยตรวจพื้นที่ร่วมกับนายชัยวัฒน์ ซึ่งขณะนั้นเป็นหัวหน้าอุทยานฯ โดยขณะลงพื้นที่นายชัยวัฒน์ ไม่ได้รายงานว่าคุมตัว “บิลลี่” ไว้ แต่ถัดไปเพียง 1 วัน ปรากฏว่ามีข่าวของ “บิลลี่” ที่หายตัวไป จึงแปลกใจว่าทำไมทันทีที่นายชัยวัฒน์ ทราบจากลูกน้องว่ามีการคุมตัว “บิลลี่” ไว้จึงไม่รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ทั้งที่ก็อยู่ด้วยในขณะที่มีการควบคุมตัวไว้ที่ด่านตรวจมะเร็ว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าจุดที่พบกระดูกของ “บิลลี่” เป็นจุดที่คนนอกจะนำถังน้ำมัน 200 ลิตร พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปได้ยาก เพราะต้องผ่านด่านตรวจ
จนท.อช.แก่งกระจาน แจงสะพานจุดพบกระดูก “บิลลี่” เป็นจุดลอยอังคาร
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยอีกชุด ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อตรวจสอบจุดที่ DSI อ้างว่าพบถังน้ำมันและชิ้นส่วนของ “บิลลี่” และได้รับคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ว่า เห็น DSI ลงพื้นที่งมหาวัตถุพยาน 3 ครั้งที่ใต้สะพานแขวน โดยครั้งแรกเมื่อ 2-3 เดือนก่อน พบถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ซึ่งเป็นถังที่ใช้รองสะพานแขวน เพื่อไม่ให้สะพานจมน้ำในช่วงที่น้ำขึ้น แต่ส่วนที่เป็นรูเชื่อว่าน่าจะถูกกัดเซาะ จากนั้นประมาณปลายเดือนก่อน จึงเห็นว่ามีการพบชิ้นส่วนกระดูก อย่างไรก็ตาม จุดนี้มักมีชาวบ้านนำเถ้ากระดูกมาลอยอังคารเป็นประจำ ยิ่งในช่วงน้ำลดมักจะเจอห่อผ้าขาว พอลงไปแกะดูจึงพบว่าเป็นเถ้ากระดูก และเคยมีบางครั้งได้นำไปโปรยต่อ
“พล.อ.ประวิตร” สั่งสอบ จนท.รัฐ เอี่ยวคดี “บิลลี่” หรือไม่
ท่าทีของฝ่ายการเมืองเกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนตรวจสอบให้ชัดเจน ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น “ตอบไม่ได้” เพราะไม่ทราบรายละเอียด
“วราวุธ” จ่อสั่งย้ายบุคลากรเปิดทางสอบสวนคดี
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า เตรียมสั่งให้ย้ายบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวออกจากพื้นที่ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย แต่ไม่ได้แปลว่าเป็นการลงโทษหรือมีการกระทำความผิด ส่วนการสั่งย้ายจะมีผลเมื่อไรนั้น เป็นดุลยพินิจของอธิบดี และหาก DSI ประสานขอตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบสวน ก็พร้อมร่วมมือเต็มที่ ไม่มีการปกป้องใคร
ส.ส.ชาติพันธุ์ กระตุ้นหามือสังหาร “บิลลี่”
ขณะที่นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ แถลงข่าวเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ที่สังหาร “บิลลี่” มาลงโทษ พร้อมขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายนำคนออกจากป่า
องค์กรระหว่างประเทศเรียกร้องหาตัวผู้สังหาร “บิลลี่”
มีแถลงการณ์ร่วมระหว่าง “ICJ” และ “แอมเนสตี้” เกี่ยวกับคดีนี้มีการแถลงว่า DSI ควรเพิ่มความพยายามมากขึ้นเพื่อระบุตัวผู้ที่กระทำการสังหาร “บิลลี่” และนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และหากประเมินจากหลักฐานต่างๆ พบว่า “บิลลี่” ตกเป็นเหยื่อของการบังคับบุคคลให้สูญหาย รวมถึงคดีนี้สะท้อนความเสี่ยงของนักกิจกรรมและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ไทยต้องเผชิญ
ด้านคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โพสต์ Facebook ว่า “การอุ้มฆ่า” หรือ “ฆ่าทำลาย” และ “ซ่อนศพ” แต่ละคดีมีความยุ่งยากซับซ้อน ทั้งเรื่องเทคนิคและเรื่องอิทธิพล หลักการสากลของสหประชาชาติได้กำหนด “Minnesota Protocol” ในการสืบสวนกรณีเช่นว่านี้ ถูกกำหนดให้ดำเนินการโดยหน่วยงานที่เป็นกลาง ต้องตั้งเป้าหมาย “ทำเพื่อคนตาย” แต่ระบบที่เป็นอยู่ทำได้ยาก เพราะกรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐอุ้มฆ่า เป็นกรณีที่ยากที่สุด อยากเห็นการเริ่มต้นเปิดหลักฐานสำคัญกรณีอุ้มฆ่า “บิลลี่” จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของจุดเปลี่ยนกระบวนการยุติธรรมไทยเพื่อคุ้มครองสิทธิ
เยียวยาครอบครัว “บิลลี่” เสนออนุฯ พิจารณา 12 ก.ย.
ล่าสุด เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ ลงพื้นที่พบกับครอบครัวของ “บิลลี่” เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการพิจารณารับการช่วยเหลือเยียวยา เนื่องจากเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ก่อนนำข้อมูลและคำขอรับค่าตอบแทนทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ในวันที่ 12 กันยายน เพื่อคุ้มครองสิทธิต่อไป.-สำนักข่าวไทย