สบส.10 ส.ค.-กรม สบส.ส่งทีมกฎหมายตรวจสอบคลินิกฟอกสีฟัน ย่านสยามสแควร์ ซอย 5 ชี้ประชาชนดารามีสิทธิ์ขออนุญาตเป็นเจ้าของคลินิกได้ แต่ผู้ให้บริการต้องเป็นทันตแพทย์ หากไม่มีเข้าข่ายคลินิกเถื่อน พร้อมเตือนทำไม่ถูก สารเคมีจะทำลายเนื้อฟัน เสียวฟัน และเหงือกเป็นแผลได้
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าได้รับการประสานจากทันตแพทยสภา เกี่ยวกับมีดารานักแสดงเปิดร้านรับฟอกสีฟันในย่านสยามสแควร์ ซอย 5 ซึ่งเป็นที่นิยมของวัยรุ่น โดยได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่และนักกฎหมายลงไปดำเนินการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว โดยมีโทษ 2 สถาน ได้แก่ ทำฟันโดยไม่ใช่ทันตแพทย์ ไม่มีใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเปิดร้านทำฟันโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้ทั่วประเทศมีสถานพยาบาลทันตกรรมที่ได้รับอนุญาตจำนวน 4,272 แห่ง ในจำนวนนี้อยู่ในกทม. 1,496 แห่ง
“ในการขออนุญาตเปิดสถานพยาบาลด้านทันตกรรมนั้น ประชาชนทุกคนรวมถึงดารานักแสดงสามารถขออนุญาตเป็นเจ้าของกิจการได้ แต่ต้องมีผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ซึ่งต้องเป็นทันตแพทย์ และมีใบประกอบโรคศิลปะเท่านั้น เนื่องจากเป็นเรื่องการรักษาพยาบาลดำเนินการกับชีวิตของผู้ป่วย ต้องควบคุมมาตรฐานทุกด้านทั้งการรักษา การใช้เครื่องมือต่างๆ ในการให้บริการอย่างปลอดภัยเป็นไปตามกฎหมายคือ พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 หากไม่มีการขออนุญาต และเปิดให้บริการโดยใช้ผู้ที่ไม่ใช่ทันตแพทย์ จะเข้าข่ายเป็นสถานพยาบาลเถื่อน ทันตแพทย์เถื่อนทันทีและมีโทษตามที่กล่าวมา” อธิบดีกรม สบส.กล่าว
ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า ขณะนี้การฟอกสีฟันกำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่น ดารานักแสดงเพราะเชื่อว่าทำให้ฟันขาวสวย เสริมบุคลิกใบหน้าโดดเด่นขึ้น โดยสารฟอกสีฟันจะแทรกซึมผ่านเคลือบฟัน เพื่อขจัดเม็ดสีในชั้นเนื้อฟัน สีจะค่อยๆจางลง ฟันขาวขึ้น หลังฟอกจะอยู่ได้ประมาณ 2-3 ปี จากนั้นสีของฟันก็จะเกิดขึ้นใหม่อีก น้ำยาที่นิยมใช้มี 2 ชนิด คือไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) และคาร์บาไมด์ เพอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide) ไปทำปฏิกิริยากับสารที่มีภายในฟัน ทำให้สีที่สะสมอยู่ในเนื้อฟันหลุดออกมา จึงทำให้สีอ่อนลงโดยไม่มีผลต่อโครงสร้างของฟัน โดยการฟอกต้องอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ผู้ที่จะฟอกสีฟันควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 13 ปี ซึ่งฟันแท้ขึ้นครบแล้ว
ทั้งนี้ ในการฟอกสี จะมีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การใช้แสงยูวี (Ultra Violet :UV) แสงสีม่วง ซึ่งมีความยาวคลื่น 320 นาโนเมตร มาใช้ระหว่างฟอกด้วย เพื่อช่วยให้สารเคมีทำปฏิกิริยากับเนื้อฟันดีขึ้น โดยต้องควบคุมการใช้โดยทันตแพทย์เช่นกัน ในการฟอกสีฟันนั้นมีข้อระมัดระวัง โดยสารเคมีที่ใช้ฟอกจะต้องมีความเข้มข้นประมาณ 10-20% หากทำไม่ถูกวิธีสารเคมีอาจทำลายเนื้อเยื่อรอบฟัน เหงือกอักเสบ น้ำยาจะกัดผิวเคลือบฟัน ทำให้เกิดอาการเสียวฟัน เนื้อฟันถูกทำลาย ทำให้ฟันสึกกร่อน ฟันบางลง แตกหักง่าย .-สำนักข่าวไทย