กสม.เรียกร้อง “ครม.–รัฐสภา” เร่งกฎหมายป้องกันการทรมาน

กสม. 4 ก.ย.-  กสม.เรียกร้อง  “ครม.–รัฐสภา” เร่งกฎหมายป้องกันการทรมานโดยเร็ว-เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาการคุ้มครองบุคคลจากการบังคับให้หายสาบสูญ  เร่งเยียวยาครอบครัว “บิลลี่” เพื่อสร้างความเป็นธรรม

นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) กล่าวถึง กรณีกรมสอบสวนพิเศษ (DSI) พบหลักฐานเชื่อมโยงคดีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่  แกนนำประชาชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึกบางกลอย  ว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของนายพอละจี และขอแสดงความชื่นชมการทำงานของ DSI  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่บูรณาการความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการสืบสวนสอบสวนอย่างยากลำบาก จนกระทั่งได้พบหลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยงว่านายพอละจีน่าจะเสียชีวิตแล้ว และสนับสนุนให้เร่งดำเนินการต่อไป เพื่อนำกลุ่มบุคคลที่กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว  

นางประกายรัตน์ กล่าวว่า  ที่ผ่านมา กสม.พยายามผลักดันให้รัฐบาลออกกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรมของไทย โดยในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา กสม. ได้มีข้อเสนอแนะและความเห็นเพิ่มเติมต่อร่างกฎหมายดังกล่าว ไปยังคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)  โดยเฉพาะการกำหนดเรื่องการรับผิดของผู้บังคับบัญชาที่มีส่วนรับรู้การกระทำผิดของผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีของอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการประติบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT) ที่ประเทศไทยเป็นภาคี แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ตกไป 

“ขอเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีและสมาชิกรัฐสภาเสนอร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. …. เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภาโดยเร็ว  และขอให้คณะรัฐมนตรีเร่งเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (ICPPED)  เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันทางกฎหมายและแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการคุ้มครองสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญและพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน” นางประกายรัตน์ กล่าว

นางประกายรัตน์   กล่าวอีกว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณามาตรการเยียวยาที่รวดเร็ว และเป็นธรรมต่อครอบครัวของนายพอละจี  เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นแก่ครอบครัว รวมทั้ง คุ้มครองให้ปลอดภัยจากการถูกข่มขู่ คุกคาม ที่จะทำให้สังคมไทยมีศรัทธา ยึดมั่นต่อหลักนิติรัฐและกระบวนการยุติธรรมของไทย     . – สำนักข่าวไทย