กรุงเทพฯ 3 ก.ย. – แม่ผู้ต้องขังที่ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตในเรือนจำธัญบุรี ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ ผบ.ตร. เหตุสงสัยการเสียชีวิตของลูกชาย
นางนอม กัณหาบุตร แม่ของนายฉัตรชัย กัณหาบุตร ผู้ต้องขังที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตภายในเรือนจำธัญบุรี เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมทนายความ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้มีคำสั่งให้ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ส่งภาพนิ่งและภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะส่งตัวผู้เสียชีวิตไปศาลจังหวัดธัญบุรี รวมถึงภาจากกล้องวงจรปิด คืนวันที่ 20 ต่อเนื่องถึงวันที่ 21 สิงหาคม ว่ามีใครทำร้ายนายฉัตรชัย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต และกล้องวงจรปิด วันที่ 25 สิงหาคม ที่ห้องพยาบาล รวมถึงกล้องวงจรปิดขณะนำตัวนายฉัตรชัย ออกจากเรือนจำธัญบุรีทุกจุด มอบให้แม่ผู้เสียชีวิต พร้อมใบชันสูตรศพ หาหลักฐานว่าใครเป็นคนทำร้าย เพื่อให้ความกระจ่างแก่ญาติผู้ตาย และจะได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย
เบื้องต้นเชื่อว่า นายฉัตรชัยไม่ได้เสียชีวิตจากการทะเลาะวิวาท เนื่องจากตามภาพถ่ายของตำรวจ ระหว่างนายฉัตรชัยถูกจับ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม มีแผลที่ศีรษะเพียงแห่งเดียว แต่ภาพถ่ายวันที่ 21 สิงหาคม ช่วงตรวจร่างกายของเรือนจำธัญบุรี กลับพบร่องรอยฟกช้ำที่ขอบตาด้านซ้าย และรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย ทั้งที่ใบตรวจร่างกายก่อนเข้าเรือนจำ ระบุชัดเจนว่า มีบาดแผลที่ศีรษะเพียงจุดเดียว อีกทั้งแพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ระบุสาเหตุการเสียชีวิตจากเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นหนา ซึ่งเกิดจากศีรษะได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง คล้ายกับถูกจับศีรษะกระแทกผนัง โดยไม่เกี่ยวกับบาดแผลที่ศีรษะเล็กน้อยก่อนเข้าเรือนจำ
นางนอม กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ยังมีข้อสงสัยการเสียชีวิตของลูกชายหลายอย่าง ดังนั้น หากทางเรือนจำฯ ยืนยันว่า ลูกชายเสียชีวิตจากบาดแผลก่อนเข้าเรือนจำจริง ก็ขอให้เปิดเผยหลักฐาน เพื่อความโปร่งใส และหากผลเป็นไปตามข้อเท็จจริงก็พร้อมจะยอมรับ
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรปทุมธานี มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมีระดับรองผู้บังคับการตำรวจภูธร เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อทำสำนวนสอบสวนคดีชันสูตรพลิกศพ ตามกรอบระยะเวลาของกฎหมาย และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สามารถตอบคำถามสังคมได้ รวมทั้งตำรวจฝ่ายสืบสวนได้แสวงหาข้อเท็จจริง หาข้อมูลพยานหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องในคดีทุกมิติ เพื่อดำเนินการบูรณาการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นระบบ มีความน่าเชื่อถือ ตรงไปตรงมา และยึดหลักความถูกต้อง โดยปฏิบัติตามหลักของกฎหมายอย่างเคร่งครัด. – สำนักข่าวไทย