สรท.ฟันธงส่งออกทั้งปียังติดลบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ย. – สรท.ชี้ยังมีหลายปัจจัยเสี่ยงฉุดส่งออกไทยปีนี้ติดลบร้อยละ 1-0  แต่พร้อมร่วมมือกระทรวงพาณิชย์ผลักดันให้ยอดเป็นบวกร้อยละ 3


น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า แม้ตัวเลขส่งออกเดือนกรกฎาคม 2562 มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.28 คิดเป็นมูลค่า 21,205 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และคงต้องติดตามหลังจากนี้ตัวเลขส่งออกของไทยจะเป็นบวกอีกหรือไม่ โดยมีปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับคนทั่วโลกที่จะกระทบในเรื่องค่าเงิน ตลาดหุ้น และกระทบต่อการส่งออกของไทยไม่น้อย เช่น ปัญหาทางการเมืองของกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) บางประเทศ ความวุ่นวายชุมชนเรียกร้องของประชาชนในฮ่องกง หรือการประกาศขึ้นภาษีรอบใหม่ของสหรัฐและจีน และความผันผวนค่าเงินที่อยู่ช่วงแข็งค่าเช่นนี้ จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้ตัวเลขการส่งออกไม่ดีนัก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะย้ำต่อภาคเอกชนว่าปีนี้จะพยายามเร่งผลักดันทุกแนวทาง เพื่อให้ภาคการส่งออกของไทยปีนี้จะต้องเป็นบวกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 ตามที่ได้นำเสนอแผนต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยจะเร่งหาตลาดใหม่และรักษาตลาดเก่ามากขึ้น รวมถึงเร่งผ่อนคลายอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับภาคการส่งออกนั้น ถือเป็นเรื่องดีมาก แต่ต้องยอมรับว่าด้วยปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน โดยเฉพาะความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งค่าเงินบาทของไทยจะแข็งค่ามากกว่าประเทศอื่น ๆ รวมทั้งการตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐและจีนยังไม่มีทางยุติลง จึงเป็นเป็นปัจจัยเสี่ยงของการส่งออกปีนี้ ดังนั้น สรท.ยังมองว่าโอกาสส่งออกของไทยปีนี้น่าจะติดลบอยู่ที่ร้อยละ 1-0 ซึ่งมีโอกาสสูงมาก


นอกจากนี้ สรท.อยากให้หน่วยงานที่กำกับดูแล รวมถึงรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือภาคธุรกิจการส่งออกให้ลดผลกระทบ คือ ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่ามากจนเกินไป โดยไม่ได้บอกต้องเข้าไปแทรกแซง แต่อยากให้เข้าไปติดตาม เพื่อไม่ให้แข็งค่ามากกว่านี้ พร้อมให้มีการเจรจาเปิดตลาดสินค้าใหม่ ๆ เช่น อินเดียเป็นตลาดส่งออกของไทยไม่ติดลบและเติบโตต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งประชากรอินเดียมีมากกว่า 1,300 ล้านคน ซึ่งผู้บริโภคชาวอินเดียมีความต้องการสินค้าไทย โดยเฉพาะอาหาร สินค้าเกษตร ยางพาราและไม้ยางพารา อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นต้น ดังนั้น ภาคเอกชนมองว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนทุกมติจะต้องให้เห็นเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นจะสามารถช่วยให้ภาคการส่งออกของไทยไปได้ดีในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ

นายกฯ วิดีโอคอลให้กำลังใจ 5 คนไทยที่อิสราเอล

นายกรัฐมนตรี วิดีโอคอลให้กำลังใจ 5 คนไทยที่อิสราเอล ดีใจทุกคนสุขภาพแข็งแรงดี อยากให้ตรวจเช็กให้เรียบร้อยก่อนกลับไทย ยืนยันรัฐบาลดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่