กรมอุตุนิยมวิทยา 2 ก.ย.-อธิบดีกรมอุตุฯ ชี้พายุลูกใหม่กระทบไทย อีสานหนักสุดเกือบทั่วทั้งภาค แต่ไม่หนักเท่า “โพดุล” ตลอดเดือน ก.ย. มีสิทธิ์เจอพายุได้อีก ยาวไปจนถึงเดือน ต.ค.
นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงพายุลูกใหม่ ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบกับประเทศไทยต่อเนื่องจากพายุโพดุล ว่าพายุลูกใหม่นี้เริ่มมาจากหย่อมความกดอากาศต่ำในประเทศฟิลิปปินส์ ขณะนี้ศูนย์กลางพายุดีเปรสชัน อยู่ที่บริเวเกาะไหหลำ ประเทศจีน มุ่งหน้าสู่ชายฝั่งประเทศเวียดนาม ยังไม่มีการตั้งชื่อ เนื่องจากยังอยู่ในระดับ 2 โดยจะตั้งชื่อเมื่อความแรงอยู่ในระดับ 3 หรือพายุโซนร้อน ซึ่งคาดว่าจะมีกำลังแรงขึ้น ระดับ 3 ในวันนี้ ซึ่งจะได้ชื่อว่าพายุ “คาจิกิ” แม้ศูนย์กลางพายุไม่พัดผ่านประเทศไทย แต่อิทธิพลของพายุจะส่งผลกระทบกับประเทศไทย
โดยวันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับผลกระทบหนักสุดเกือบทั่วทั้งภาค นอกจากนี้ยังมีภาคเหนือบางส่วน ภาคตะวันออกแถบจังหวัดระยองจันทบุรี ตราดและกระทบถึงกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น
ส่วนในวันที่ 4 ก.ย.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงได้รับผลกระทบอยู่ แต่จะเบาบางลงในช่วงบ่าย ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และจังหวัดกาญจนบุรี
อย่างไรก็ตามที่น่าเป็นห่วง คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเพิ่งได้รับผล กระทบจากพายุโพดุล อาจส่งผลต่อการระบายน้ำ แต่ยืนยันว่าระดับฝนที่ ตก จะอยู่ในราว 80-110 มิลลิเมตร ไม่รุนแรงเท่าพายุโพดุล และจากภาพ ถ่ายดาวเทียมร่วมกับการวิเคราะห์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ยืนยันว่าพายุนี้จะไม่เข้าไทย แต่เป็นไปได้ว่าจะเคลื่อนที่ไปด้านบนทางเกาะกวางตุ้งเหนือเกาะไหหลำ ขอให้ประชาชนระวังผลกระทบจากพายุนี้ไปจนถึงวันที่5ก.ย.
ส่วนตลอดเดือน ก.ย.นี้ ประเทศไทยยังมีโอกาสได้รับอิทธิพลจากพายุอีก เนื่องจากพายุจะเกิดขึ้นมากในช่วงเดือน ก.ย.และ ต.ค.ซึ่งเป็นฤดูมรสุม สถิติเฉพาะเดือน ก.ย.ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีพายุเกิดขึ้นถึง 15 ลูก เช่นเดียวกับเดือน ต.ค.ในรอบ 10 ปี มีพายุถึง 15 ลูกเช่นกัน ประกอบกับระยะนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศไม่ปกติ จึงอยากให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย