ไทย-เกาหลี ลงนามข้อตกลงเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในทุกมิติ

ทำเนียบฯ 2 ก.ย.-ไทย-สาธารณรัฐเกาหลี ลงนามข้อตกลงระหว่างภาครัฐ 6 ฉบับ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในทุกมิติ เห็นพ้องพัฒนาความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนรอบด้าน เน้นเพิ่มพูนการค้าการลงทุน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ภายหลังการหารือข้อข้าราชการระหว่างไทยและสาธารณรัฐเกาหลี ในโอกาส นายมุน แช-อิน (H.E. Mr. Moon Jae-in) เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายมุน แช-อิน (H.E. Mr. Moon Jae-in) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจและความตกลงระหว่างภาครัฐ จำนวน 6 ฉบับ โดยมีรัฐมนตรีจากกระทรวงที่เกี่ยวเป็นผู้ลงนาม ได้แก่ 1.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ 2.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาภาษาเกาหลี 3.ความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ว่าด้วยการคุ้มครองข่าวสารทางทหารที่มีชั้นความลับร่วมกัน ที่จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารตลอดจนกำหนดเงื่อนไขสำหรับการคุ้มครองข่าวสารที่ได้มีการแลกเปลี่ยนกัน 4.บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลีและกระทรวงอุตสาหกรรมแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อจัดทำความร่วมมืออุตสาหกรรม 4.0 5.ความตกลงว่าด้วยการต่ออายุบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระบบราง และ 6.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในสาขาการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เพื่อช่วยสนับสนุนการแลกเปลี่ยนนโยบาย เทคโนโลยี ข้อมูลและทรัพยากรมนุษย์

จากนั้นเป็นการแถลงข่าวร่วมระหว่าง นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเยือนไทยของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ครั้งนี้ เป็นการพัฒนาความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างกันให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมและตอบสนองเป้าหมายและนโยบายของทั้งสองประเทศ รวมทั้งส่งเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงของภูมิภาค 


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งนี้สองประเทศได้หารือถึงการขยายความร่วมมือด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนและผลกระทบของสงครามการค้า จึงควรเพิ่มการลงทุนระหว่างกันในภูมิภาคให้มากขึ้น ควบคู่กับการผลักดันการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค หรือ RCEP ให้บรรลุข้อสรุปภายในปีนี้ พร้อมเชิญชวนให้ภาคเอกชนเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ในสาขาที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมเสนอให้ EEC และสำนักงานส่งเสริมการค้าการลงทุนเกาหลี (KOTRA) พิจารณาจัดทำกรอบความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อรองรับการลงทุนของเกาหลีใต้ และไทยยินดีที่เกาหลีใต้สนใจลงทุนในโครงการรถไฟฟ้ารางเบา ในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของไทย 

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ด้านความร่วมมือด้านการเมือง ความมั่นคงและการทหาร ทั้งสองประเทศเห็นชอบเพิ่มปฏิสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงมากขึ้น และพัฒนากลไกหารือทวิภาคีทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน และยินดีกับการลงนามความตกลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีชั้นความลับร่วมกัน ซึ่งสะท้อนถึงความไว้เนื้อเชื้อใจระหว่างสองฝ่าย นอกจากนี้ยังเห็นพ้องต่อยอดความร่วมมือด้านการจัดตั้งศูนย์ศึกษาเกาหลีในไทย ซึ่งจะช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของไทยและเตรียมความพร้อมรองรับธุรกิจการค้าการลงทุนจากเกาหลีใต้ในอนาคต สำหรับแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้นั้น ได้ย้ำกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่ารัฐบาลไทยสนับสนุนให้เดินทางไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไทยพร้อมที่จะร่วมมือแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย 

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ไทยยินดีที่จะเป็นประธานร่วมกับเกาหลีใต้ในการประชุมสุดยอดอาเซียน -เกาหลีใต้ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 ในเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่นครปูซาน นอกจากนี้ ยินดีที่เกาหลีใต้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของ ACMECS และไทยพร้อมขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้รุดหน้าก้าวไกลต่อไป 


ด้านนายมุน แช อิน กล่าวคำทักทายเป็นภาษาไทย ว่า สวัสดีครับ พร้อมขอบคุณรัฐบาลไทยที่เชิญตนมาในฐานะอาคันตุกะผู้นำต่างประเทศคนแรกของรัฐบาลชุดใหม่นี้ ทั้งนี้การค้าระหว่างสองประเทศ ปีที่ผ่านมามีมูลค่าถึง 14,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มากที่สุดเป็นประวัติกาล และยังมีการไปมาหาสู่ของประชาชนทั้งสองประเทศ มากกว่า 2 ล้านคน

ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี  กล่าวว่า ส่วนการหารือวันนี้ (2 ก.ย.) ทั้งสองผู้นำประเทศเห็นพ้องมุ่งสู่อนาคตแห่งสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เพิ่มพูนหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ด้านวิทยาศาสตร์ เช่น การพัฒนาเตาปฎิกรนิวเคลียร์สำหรับการวิจัย การพัฒนาสตาร์ทอัพ และเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมเห็นพ้องกระชับความร่วมมือเพื่อสันติภาพและความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงเอเชียตะวันออก 

ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี  กล่าวอีกว่าการลงนามบันทึกข้อตกลงรักษาข้อมูลทางทหารร่วม จะช่วยยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อความแข็งแกร่ง พร้อมกันนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้เห็นควรสร้างเศรษฐกิจเชิงสันติภาพ ผ่านการปลดอาวุธนิวเคลียร์  ที่จะนำไปสู่ความผาสุขของเอเชียตะวันออก ซึ่งไทยก็ให้การสนับสนุนนโยบายมุ่งใต้ใหม่ (New Southern Policy-NSP) ของเกาหลีอย่างหนักแน่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกันเสร็จสิ้น ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ได้มอบเหรียญสันติภาพ ให้แก่ตัวแทนทหารไทย จำนวน 10 คนที่ร่วมรบในสงครามเกาหลีเหนือ เมื่อปี 1953 เพื่อขอบคุณในความเสียสละของทหารไทย ที่เป็นประเทศแรกในเอเชียในการให้ความช่วยเหลือยามที่สาธารณรัฐเกาหลีอยู่ในภาวะคับขัน จนทำให้สาธารณรัฐเกาหลีมีความเจริญรุ่งเรืองเช่นทุกวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]