ตรัง 2 ก.ย. – ผู้สื่อข่าวสำนักข่าว อสมท ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง มีอาชีพการทำประมงชายฝั่งนับร้อยครัวเรือน เดือดร้อนอย่างหนัก เพราะไม่สามารถนำเรือเข้าไปจอดหลบคลื่นลมในคลองได้ เพราะติดสะพาน
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างบ้านนาเล ม.1 และบ้านนานุ้ย ม.5 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ กว้างประมาณ 3.5 เมตร และสูงประมาณ 4.5 เมตร ทำให้เรือประมงไม่สามารถลอดผ่านไปได้ ชาวบ้านจำเป็นต้องจอดเรือทิ้งไว้หน้าสะพานกว่า 40 ลำ แต่เจอพายุคลื่นลมแรงและฝนตกหนัก ทำให้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีเรือประมงจมไปแล้วหลายลำ
สะพานดังกล่าวสร้างมานานกว่า 10 ปี เพื่อแทนสะพานเดิมที่ชำรุด สะพานเดิมมีลักษณะโค้ง เรือประมงสามารถแล่นผ่านได้ แต่สะพานที่สร้างขึ้นมาใหม่เป็นแนวเส้นตรง เสมอกับพื้นถนน ทำให้เรือประมงไม่สามารถลอดผ่านได้ เดือดร้อนกันมาต่อเนื่อง โดยไม่ได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชาวบ้านจึงรวมตัวกันร้องเรียนผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย เพื่อขอความช่วยเหลือ
ที่ผ่านมาต้องกู้ยืมหนี้นอกระบบมาซ่อมสร้างเรือและใช้จ่ายในช่วงมรสุมเป็นประจำทุกปี เพราะมุดสะพานเข้าไปหลบคลื่นลมไม่ได้ อีกทั้งสะพานดังกล่าวยังมีรอยแตกร้าวและผุกร่อน ถนนเชื่อมต่อกับสะพานถูกคลื่นซัดจนถึงขอบถนน เพราะมีการทำแนวกันคลื่นโดยตัดไม้ในบริเวณดังกล่าวทั้งหมด จนทำให้การไหลของน้ำเปลี่ยนทิศทาง สร้างความเสียหายและความหวาดเสียวให้กับชาวบ้านที่ใช้ถนนสายดังกล่าวกว่า 100 หลังคาเรือน
นายฉัตรชัย เสลา ชาวบ้าน ม.1 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง อาชีพประมงพื้นบ้าน กล่าวว่า สะพานต่ำและคับแคบ ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถพาเรือลอดผ่านไปได้ จึงทำให้เกิดความเสียหาย
นางปาริชาติ เพทาย ชาวบ้าน ต.ตะเสะ กล่าวว่า การขุดคลองไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะขุดให้เล็กลง ทำให้ทรายไปพัดไปกองอยู่หน้าสะพาน เรือไม่สามารถวิ่งผ่านได้ พอคลื่นซัดเรือก็พลิกคว่ำ เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา มีเรือจมไปแล้ว 5-6 ลำ ชาวบ้านเดือดร้อนมาก เพราะถ้าไม่ได้ทำประมงก็ไม่มีอาชีพอื่นเสริม เป็นแบบนี้มาหลายหลายปีแล้ว สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน. – สำนักข่าวไทย