หนุนกินผลไม้ไทย ช่วยเกษตรกร-คุณค่าโภชนาการเพียบ

สธ. 30 ส.ค.-กรมอนามัย ชวนคนไทยกินผลไม้ไทย หนุนช่วยเกษตรกรหลังปัญหาราคาผล ผลิตการเกษตรตามฤดูกาลตกต่ำ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณค่าโภชนาการเพียบ


นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ขณะนี้เกษตรกรไทยกำลังประสบปัญหาผลผลิตผลไม้ไทยล้นตลาด 5 ชนิด คือมังคุด ลำไย ลองกอง เงาะและทุเรียน ทางหนึ่งที่จะช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน คือการส่งเสริมคนไทยหันมากินผลไม้ไทยให้มากขึ้น แต่ควรกินในปริมาณพอเหมาะ  ซึ่งผลไม้อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ ใน 1 วัน ควรกินผลไม้ 3- 5 ส่วน และกินให้หลากหลายเพราะในผลไม้แต่ละชนิดจะมีวิตามิน  แร่ธาตุ  มากน้อยแตกต่างกันไป โดยผลไม้ไทยทั้ง 5 ชนิด จะให้คุณค่าสารอาหารและสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายต่างกันไปด้วย 


ทั้งนี้ ควรกินในปริมาณที่เหมาะสมต่อมื้อ ดังนี้ 

1) มังคุด มีสารแซนโทน มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดการปวดข้อเข่า 1 ส่วนเท่ากับ 4 ผล  

2) ลำไย เป็นแหล่งวิตามินซี แต่ให้น้ำตาลสูง ควรกินแต่พอดี 1 ส่วน เท่ากับ 5-6 ผล  


3) ลองกอง เป็นแหล่งโปแตสเซียมและใยอาหาร มีสรรพคุณ  ในการลดความร้อนที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย ลดอาการร้อนในช่องปาก 1 ส่วนเท่ากับ 5-6 ผล  

4) เงาะ มีวิตามินซี แคลเซียม ช่วยในการป้องกันโรคหวัด เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน 1 ส่วน เท่ากับ 4 ผล 

และ 5) ทุเรียน มีเบต้าแคโรทีนและโปแตสเซียม แต่เป็นผลไม้ที่มีรสหวานมัน ให้พลังงานสูง 1ส่วนเท่ากับ 1เม็ดเล็กไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน จึงต้องจำกัดการกินในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากกินเข้าไปในปริมาณมาก จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การกินทุเรียนที่มากเกินไปจะทำให้ร้อนในและรู้สึกไม่สบายเนื้อ ไม่สบายตัว และควรเลือกกินผลไม้สดในปริมาณที่เหมาะสมแทนผลไม้กระป๋องหรือผลไม้อบแห้ง เพื่อให้ร่างกาย  ได้คุณค่าทางโภชนาการที่ดีกว่า 

“จากรายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 5 พ.ศ.2557 พบว่าคนไทยยังกินผลไม้ไม่เพียงพอ อายุ15 ปีขึ้นไปกินผลไม้เพียงพอต่อวันเพียงร้อยละ 30.5 กินผักและผลไม้เพียงพอต่อวันเพียงร้อยละ 25.9 กลุ่มอายุ 30-59 ปี  กินผักและผลไม้เพียงพอร้อยละ 29.0-30.6จะลดลงในผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป บริโภคผักและผลไม้เพียงพอร้อยละ20.9 และลดลงมากที่สุดในกลุ่มผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไป กินผักและผลไม้เพียงพอร้อยละ11 ทั้งๆ ที่ควรกินผลไม้ให้มากขึ้น เพราะทุกวัยต้องการวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวัยสูงอายุมีการเสื่อมของเซลล์มากกว่าวัยอื่นๆและเป็นวัยที่ต้องการวิตามินและแร่ธาตุจากผักและผลไม้เพื่อยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระที่เป็นสารทำลายเซลล์และเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง อีกทั้งยังต้องการใยอาหารเพื่อช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลและกระตุ้นการขับถ่ายช่วยให้ท้องไม่ผูก ผลไม้ไทยจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภคและยังเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้อีกทางหนึ่งด้วย นอกจากนี้ยังช่วยให้คนไทยได้บริโภคผลไม้หลากหลายชนิดตามแต่ละฤดูกาลอย่างต่อเนื่อง ” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ