ลุ้นศาลคุ้มครองเซ็นทรัลวิลเลจบ่ายนี้

กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – เซ็นทรัลพัฒนายืนยันดำเนินการ “เซ็นทรัล วิลเลจ” อย่างถูกกฎหมาย พร้อมเปิดให้บริการ 31 สิงหาคมนี้ ขณะที่ ทอท. และเซ็นทรัลพัฒนา ลุ้นศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินบ่ายนี้


นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น กล่าวยืนยันว่า บริษัทฯ ดำเนินการโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ  ตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง และได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจรับผิดชอบโดยตรง มีความโปร่งใสพร้อมให้ตรวจสอบ และขอความเป็นธรรมช่วยกันเดินหน้าประเทศไทยทั้งภาพลักษณ์ที่ดีและเศรษฐกิจของประเทศให้โครงการที่มีร้านค้ากว่า 150 ร้าน และพนักงานมากกว่า 1,000 คน พร้อมเปิด 31 สิงหาคมนี้ตามกำหนดการเดิม


“โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ขอวิงวอนให้ภาครัฐให้ความเป็นธรรม และช่วยคลี่คลายสถานการณ์ปัญหาต่าง ๆ โดยโครงการมีมูลค่าร่วมลงทุนของซีพีเอ็น และร้านค้ากว่า 150 ร้านค้า รวมกว่า 5,000 ล้านบาท หลังจากเปิดให้บริการคาดว่าจะมีการจ้างงานพนักงานร้านค้าที่เช่าพื้นที่กว่า 1,000 คน และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในประเทศกว่า 30,000 ล้านบาท” นายปรีชา กล่าว

นายปรีชา กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่บริษัทฯ ขอชี้แจง มี 3 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ 1. พื้นที่โครงการมีการเชื่อมทางเข้าออกอย่างถูกต้อง ไม่มีการรุกล้ำที่ดินของภาครัฐ (ที่ราชพัสดุ ลำรางสาธารณะ) และไม่ได้เป็นที่ดินตาบอด โดยที่ดินโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ตั้งอยู่บนที่ดินที่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของ ทอท.


ขณะที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 เดิมเป็นที่ราชพัสดุ ต่อมากรมทางหลวงพัฒนาเป็นทางหลวงแผ่นดิน โดยขึ้นทะเบียนเป็นทางหลวงแผ่นดินแล้ว จึงมีสถานภาพเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ทำให้ไม่มีสถานะเป็นที่ราชพัสดุตามมาตรา 7 (2) พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 และเป็นพื้นที่คนละบริเวณกันกับที่ภาครัฐเวนคืนมาเพื่อสร้างสนามบินที่ ทอท.ดูแล นอกจากนี้ โครงการได้รับอนุญาตเชื่อมทางอย่างถูกต้องจากกรมทางหลวง ซึ่งเป็นผู้ซึ่งมีอำนาจเต็มในการอนุมัติการเชื่อมทางแต่เพียงผู้เดียว โดยพื้นที่ทางหลวงหมายเลข 370 หมายรวมถึงเขตทางและไหล่ทาง ซึ่งติดกับที่ดินของเอกชน 2 ข้างถนน และที่ดินของโครงการมีแนวเขตแนบสนิทต่อเนื่องกับเขตทางของ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ดังนั้น ที่ดินของโครงการจึงไม่ใช่ที่ดินตาบอด

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดในส่วนของการโต้แย้งสิทธิ์ในที่ดินหน้าโครงการระหว่างกรมทางหลวง ทอท. และกรมธนารักษ์ ขอชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้ที่ดินนี้อยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 และมีป้ายเริ่มต้นและสิ้นสุดอย่างชัดเจน โดยทางหลวงแผ่นดิน 370 ซึ่งเคยเป็นที่ราชพัสดุและมอบให้กรมทางหลวงสร้างและเป็นผู้ดูแล ซึ่งเป็นพื้นที่คนละส่วนกับพื้นที่ดินเวนคืนของสนามบินสุวรรณภูมิที่ ทอท.ดูแล อีกทั้งทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ถือเป็นทางหลวงสาธารณะที่ใช้เงินภาษีอากรของประชาชน ไม่ใช่ขององค์กรเอกชนใดที่จะมากล่าวอ้างเป็นเจ้าของได้

ปี 2511-2513 ภาครัฐได้จัดซื้อที่ดินเพื่อสร้างถนน ปี 2544 ครม.มีคำสั่งให้กรมทางหลวงสร้างทางเข้าออกด้านใต้ของสนามบิน คือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 และปี 2550 กรมขนส่งทางอากาศทำบันทึกมอบพื้นที่ให้กรมทางหลวงดูแลรักษาทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ซึ่งประกาศใช้เป็นถนนสาธารณะและให้กรมทางหลวงรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวกรมทางหลวง จึงเป็นผู้มีสิทธิ์ครอบครองและมีสิทธิ์อนุญาตในการให้ใช้ประโยชน์จากทางหลวงแผ่นดิน 370 ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นทางหลวงแผ่นดินเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2554 โดยมีป้ายแสดงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดทาง

ทั้งนี้ ทำให้ชี้ได้ว่าสิทธิ์นี้เป็นของกรมทางหลวง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้ประโยชน์เข้าออกได้ต่อเนื่องมาโดยตลอดแล้ว 88 ราย โดยแบ่งเป็น 1.ผู้ที่ยื่นขออนุญาตเชื่อมทางกับกรมทางหลวงจำนวน 37 ราย 2.ทอท.เองก็ได้ขออนุญาตจากกรมทางหลวงในการใช้ประโยชน์ เช่น จากหลักฐานล่าสุดเมื่อ 14 พฤษภาคม 2562 ได้มีหนังสือจากกรมทางหลวงอนุญาตให้ ทอท.เดินท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินและบ่อพัก ทั้งนี้ ไม่มีผู้ใช้ประโยชน์รายใด เคยยื่นขออนุญาตเชื่อมทางจาก ทอท.เลย

สำหรับพื้นที่อีกส่วนหนึ่งที่เกิดจากการจัดหาที่ดินตาม พ.ร.บ.เวนคืน เพื่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิปี 2516 ได้มีประกาศ พ.ร.บ. เวนคืนที่ดิน 19,251 ไร่ เพื่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเป็นที่ดินคนละแปลงกับที่ดินทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 เพื่อชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ ทอท.กล่าวอ้างสิทธิ์การดูแลและครอบครองที่ดินไหล่ทางหน้าโครงการ ไม่น่าจะเป็นกล่าวอ้างที่ถูกต้องนัก เพราะเป็นทางหลวงที่เปิดใช้เป็นเส้นทางสัญจรมาตั้งแต่ปี 2548 และกรมทางหลวงได้รับมอบจาก ทย. แล้วเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2550 โดยขึ้นทะเบียนเป็นทางหลวงแล้ว จึงมีสถานภาพเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน อีกทั้งล่าสุดเมื่อ 14 พฤษภาคม 2562 ได้มีหนังสือจากกรมทางหลวงอนุญาตให้ ทอท.เดินท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินและบ่อพัก

ประเด็นที่ 2 บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามกฎหมายผังเมืองอย่างเคร่งครัด โดยโครงการนี้ได้ปฏิบัติตามกฎหมายผังเมืองและได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องในการก่อสร้างในพื้นที่สีเขียว บริเวณ ก1-10 ไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดินพื้นที่สีเขียวบริเวณดังกล่าว โดยโครงการได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายผังเมืองและไม่ได้มีการขอปรับผังเมืองแต่อย่างใด

ประเด็นที่ 3 คือ บริษัทฯ ได้ขออนุญาตก่อสร้างในบริเวณพื้นที่เขตปลอดภัยในการเดินอากาศ จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยอย่างถูกต้อง โครงการมีความปลอดภัยต่อการบินไม่ได้ละเมิดกฏใด ๆ ทั้งด้านความสูง และไม่มีกิจกรรมใด ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานสนามบิน หรือรบกวนการบินแต่อย่างใด โดยการออกแบบมีความสูงที่ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) จึงไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการติดธงแดงตามที่มีการกล่าวอ้าง และเราจะปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดต่อไป

นายปรีชา กล่าวว่า 5 ปีที่ผ่านมานับแต่เริ่มพัฒนาโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ บริษัทฯ ทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพ และยึดหลักธรรมาภิบาลในการทำงานถูกต้องทุกขั้นตอน มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้มาโดยตลอด และขอยืนยันว่าโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ดำเนินการทุกอย่างถูกต้อง และได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจรับผิดชอบโดยตรง ตามไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นดังนี้ 1.ปี 2558 บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบที่ดินว่า ที่ดินดังกล่าวนั้นสามารถพัฒนาโครงการเซ็นทรัล วิลเลจได้ตาม พ.ร.บ. ผังเมือง และติดถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ไม่ใช่ที่ดินตาบอดแต่อย่างใด

2.วันที่ 22 ธันวาคม 2559 บริษัทฯ ได้รับหนังสือรับรองการใช้ประโยชน์ที่ดินตาม พ.ร.บ.ผังเมือง ว่า พื้นที่สีเขียวบริเวณ ก1-10 ของผังเมืองสมุทรปราการ ยังมีพื้นที่เพียงพอให้บริษัทฯ สร้างโครงการนี้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย 3.วันที่ 30 มกราคม 2560 และ 25 กรกฎาคม 2562 บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างและแบบปรับปรุงภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) 4.วันที่ 24 เมษายน 2561 ได้ใบอนุญาตการก่อสร้างอาคาร (อ1) จาก อบต. บางโฉลง  5.วันที่ 24 เม.ย. 2561 บริษัทฯ ได้แถลงข่าวเปิดตัวโครงการต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก 6.วันที่ 10 เม.ย. 2562 กรมทางหลวงได้อนุญาตให้การประปา ใช้พื้นที่ไหล่ทางในการดำเนินการวางท่อเข้าโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ

7.วันที่ 24 กรกฎาคม 2562 กรมทางหลวงได้อนุญาตให้ทำทางเชื่อมเข้าออก ขยายผิวจราจร และปรับปรุงทางเท้า ซึ่งรวมไปถึงไหล่ทางด้วย เช่นเดียวกับที่เคยได้อนุมัติเชื่อมทางให้กับผู้ร้องขอรายอื่นบนถนนสายนี้ทั้งสิ้น 37 ราย รวมถึง ทอท. ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยขออนุญาตจากกรมทางหลวงมาโดยตลอด และล่าสุดเมื่อ 14 พฤษภาคม  2562 ได้มีหนังสือจากกรมทางหลวงอนุญาตให้ ทอท. เดินท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินและบ่อพัก 8.วันที่ 14 สิงหาคม 2562 บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเปิดใช้อาคาร (อ6) จาก อบต. บางโฉลง 9.วันที่ 22 สิงหาคม 2562 ทอท.มาปิดกั้นทางเข้าออก หน้าโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ 10.วันที่ 31 สิงหาคม 2562 มีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ ผู้บริหารเซ็นทรัลพัฒนาระบุว่าเซ็นทรัล วิลเลจ เป็น ลักชูรี่ เอาท์เล็ตแห่งนี้จะช่วยสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน (Competitive Advantage) กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก บริษัทฯ สามารถดึงนักลงทุน Global Brands ใหญ่ ๆ ระดับโลก ซึ่งทุกคนพร้อมและเชื่อมั่นมาลงทุนในประเทศไทย โดยใช้เวลาเตรียมการมากว่า 5 ปี และ Luxury Outlet แห่งนี้ จะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มีความครบถ้วน และทำให้คนไทยมาช้อปในประเทศ ทำให้ภาษียังหมุนเวียนอยู่ในประเทศ โดยเป็นการเปิดกว้างให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงสินค้าแบรนด์เนมได้ง่ายขึ้นในราคาย่อมเยาว์

ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงประเด็นที่ระบุว่า กรณีที่ ทอท.ออกมาเคลื่อนไหว เพื่อยุติการดำเนินโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ เป็นการดำเนินการที่มีเป้าหมายเพื่อปกป้องอัตราเติบโตทางธุรกิจของคู่สัญญาสัมปทานที่จ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้ ทอท.หรือไม่

นายนิตินัย กล่าวว่า คนที่ตั้งคำถามดังกล่าว ควรหาทางออกตามข้อกฎหมายให้ ทอท.ด้วย เนื่องจากการดำเนินการของ ทอท. เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามกฎหมายที่ ทอท.ในฐานะโอเปอเรเตอร์ ผู้บริหารจัดการท่าอากาศยาน ซึ่งครอบคลุมเรื่องความปลอดภัยต้องทำเรื่องดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายและความถูกต้อง และคนที่ตั้งคำถามระบุว่า ทอท.ปกป้องผลประโยชน์ของใคร ก็ขอให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน

ทั้งนี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ระบุว่าที่ผ่านมาปัญหาการเข้าก่อสร้างโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ เกิดปัญหาขึ้นในอดีต เนื่องจากพื้นที่ทั้งหมดเป็นพื้นที่ราชพัสดุและต่อมากรมทางหลวงได้ขอใช้ประโยชน์เพื่อตัดถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 หลังจากนั้นมีเอกชนมาขอเชื่อมต่อทางเข้าออก ซึ่งกรมทางหลวงอนุมัติให้ดำเนินการได้ ทั้งที่ข้อกฎหมายเมื่อมีการตัดทางแล้วเสร็จควรดำเนินการส่งพื้นที่คืนกรมธนารักษ์และให้เอกชนที่จะเข้าใช้พื้นที่กรมธนารักษ์ ขอพื้นที่เข้าออกโดยตรงจากธนารักษ์ ไม่ใช่เชื่อมต่อเอง 

นอกจากนี้ ประเด็นเรื่อง ทอท.สอบถามไปยังสำนักงาการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องแบบแปลนการก่อสร้างโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ ทอท.มีข้อสงสัยหลาประเด็น แต่ กพท.ได้ตอบเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยความสูงอาคารมาเท่านั้น โดย กพท.ยังไม่ได้ให้รายละเอียด ซึ่ง ทอท.จะขอส่งหนังสือให้ กพท.ให้รายละเอียดอีกครั้ง รวมถึงประเด็นเรื่องการบุกรุกลำน้ำสาธารณะในพื้นที่ก่อสร้าง เรื่องนี้ ทอท.ได้ประสานกับ อบต.บางโฉลง เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ หากพบว่ามีการบุกรุก ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วน ทอท. ซึ่งเป็นผู้บริหารท่าอากาศยานสุวรรรภูมิ และเห็นว่าโครงการมีการกระทำที่ผิดกฎหมายก็จะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน 

ขณะที่กลุ่มเซ็นทรัลยื่นคำร้องต่อศาลปกครองวันนี้ (28 ส.ค.) เพื่อให้คุ้มครองให้เปิดบริการได้วันที่ 31 สิงหาคมนี้ ซึ่งเซ็นทรัลคาดหวังว่าศาลจะให้คุ้มครองฉุกเฉิน หากศาลไม่คุ้มครองกลุ่มเซ็นทรัลก็มีแผนที่จะดำเนินการ แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

ทหาร-ตร.วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว

สระแก้ว 10 มิ.ย. – ทหารพราน-ตำรวจ วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวน-ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ขณะที่ตลาดโรงเกลือยังเปิดทำการ แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ด้านชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ เริ่มคลายกังวล ออกทำไร่ทำสวน ใช้ชีวิตปกติ บรรยากาศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.โคกสูง และ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ยังคงเคร่งครัดมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 12-13 ตชด. จัดกำลังออกลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โคกสูง ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนเพียงไม่กี่กิโลเมตร นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบตามแนวถนนสีเพ็ญ เส้นทางที่เชื่อมชายแดนไทยกับกัมพูชา ใกล้ตลาดโรงเกลือ จุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการวางกำลังแน่นหนา แต่ในช่วงเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.) ตลาดโรงเกลือยังคงเปิดทำการตามปกติ พ่อค้าแม่ค้านำสินค้านานาชนิดมาวางขาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ทั่วไป มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินจับจ่ายซื้อของอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยรวมยังค่อนข้างเงียบเหงากว่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากความวิตกของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางการมีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน ส่งผลให้การเดินทางเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด บรรดานักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งยังคงรู้สึกไม่มั่นใจในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ชายแดน […]

ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี นอกจากบทบาททางการทหารแล้ว พล.อ.สุจินดา ยังมีส่วนสำคัญต่อสถานการณ์การเมืองไทย.-สำนักข่าวไทย

จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “พญ.” แอบอ้างสั่งยานอนหลับ

10 มิ.ย.- จ่อสั่งแพทย์หญิงคนดัง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกจับกุม แอบอ้างคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ พบก่อนหน้านี้เคยถูกสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ปมเอี่ยวจีนเทา กรณีตำรวจ ปส. และ อย. เข้าตรวจสอบคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ ก่อนเชื่อมโยงถึงแพทย์หญิงคนดัง พร้อมจับกุมชายรายหนึ่ง ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ยึดของกลางกลุ่มยานอนหลับ บรรจุอยู่ในกล่องลังกว่า 10 กล่อง เบื้องต้นพบเงินหมุนเงินกว่า 80 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 400 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายร้องเรียนแพทย์หญิงคนดังเกี่ยวกับกรณีที่ผู้เสียหายได้นำเงินมามอบให้ เพื่อให้ช่วยต่อวีซ่าการพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการฟ้องศาลคดีอาญา โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี และมีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทราบว่าสามารถตกลงกับคู่กรณีได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางวินัยยังคงดำเนินต่อ โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงในกรณีนี้ และอยู่ระหว่างการนัดประชุมเพื่อพิจารณาผลวินัยร้ายแรงในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่มีการจับกุมสั่งซื้อ-ขายยานอนหลับ ในวันนี้ ล่าสุดชุดทำคดีได้ทำหนังสือส่งมายังต้นสังกัดว่า แพทย์หญิงคนดัง ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และมีความเห็นว่า หากให้รับราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง […]

นายกฯ คุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี เผยคุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี งัดเทคนิค จริงใจเจรจา จนกัมพูชาปรับทัพ บอกรับทราบ “สนธิ” ยื่นหนังสือจี้รัฐบาลรักษาอธิปไตย ลั่นแก้ทีละปม ไม่เหมารวม MOU 44 พร้อมขอบคุณ จนท.ทุกหน่วย ขอ ปชช.มั่นใจไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายผลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี โดยในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกัน ทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองก็ได้พูดคุยกับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากันเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน […]