วิษณุเผยนายกฯ พร้อมไปตอบปมถวายสัตย์ต่อสภา

ทำเนียบฯ 28 ส.ค.- “วิษณุ” ยืนยันนายกรัฐมนตรีจะไปตอบสภาด้วยตนเอง ปมถวายสัตย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดกรอบเวลาและวันที่อภิปราย ยอมรับมีกำลังใจ หลังจากในหลวงพระราชทานพระราชดำรัสพร้อมลายพระราชหัตถ์ให้ ครม. ย้ำนายกรัฐมนตรีไม่เคยหนีสภาเลี่ยงตอบกระทู้ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการ


นายวิษณุ  เครืองาม  รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณี นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ไม่ครบถ้วน ตามรัฐธรรมนูญ ว่า ขั้นตอนจากนี้อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับเรื่องไว้วินิจฉัย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาก็เคยมีกรณีที่ไม่รับเรื่องไว้วินิจฉัย  แต่หากรับก็ดี เพื่อให้นายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลได้ไปชี้แจง  ส่วนกรอบเวลาจะช้าหรือเร็วไม่มีกำหนดตายตัว

ต่อข้อถามว่าเมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีร่วมพิธีรับพระราชดำรัสพร้อมลายพระราชหัตถ์ ในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญานก่อนเข้ารับหน้าที่ ทำให้การทำงานรัฐบาลคล่องตัวขึ้นหรือไม่  รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับการทำงาน  แต่ยอมรับว่าเกิดกำลังใจและมีความมั่นใจ  ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ขอให้คณะรัฐมนตรีทำงานด้วยความมั่นใจ  อย่าวอกแวก อะไรเกิดก็ต้องเกิด  และต้องเดินหน้าทำงานต่อไปเพราะปัญหาบ้านเมืองยังมีอยู่มากมาย หากรัฐบาลไม่ทำแล้วใครจะทำ


นายวิษณุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่เคยหนีการตอบกระทู้ที่สภา ที่ผ่านมาทางสภาไม่เคยแจ้งอย่างเป็นทางการ หากสภาแจ้งมาอย่างเป็นทางการ  รัฐบาลก็จะได้แจ้งตอบกลับอย่างเป็นทางการเช่นกัน ว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถไปตอบกระทู้ได้หรือไม่และหากไม่สามารถไปตอบได้ด้วยเหตุผลใด แต่ที่ผ่านมีเพียงการโทรศัพท์มาสอบถามด้วยวาจาถึงภารกิจของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เมื่อสภาทราบว่านายกรัฐมนตรีมีภารกิจ ก็ถอนกระทู้ถาม นายกรัฐมนตรีออกจากสภา  ดังนั้นจึงไม่สามารถพูดได้ว่านายกรัฐมนตรีหนีสภาเพื่อหลีกเลี่ยงการตอบกระทู้  

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมตินายกรัฐมนตรีตามมาตรา 152 นั้น  นายกรัฐมนตรี ก็เคยพูดแล้วว่าจะไปชี้แจงด้วยตนเอง  และจำเป็นต้องไป  เพราะหากไม่ไปก็จะมีความผิด เพราะสภาได้บรรจุญัตติถูกต้องตามขั้นตอน  แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดกรอบเวลาและวันที่อภิปราย 

ต่อข้อถามว่ารัฐบาล จะร่วมกับฝ่ายค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะก็เป็นนโยบายเร่งด่วน 12 ข้อของรัฐบาล นายวิษณุ  กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของวิปรัฐบาลที่จะต้องหารือกัน แต่เบื้องต้นในส่วนของรัฐบาลยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้  ซึ่งต้องรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพราะยังมีปัญหาเร่งด่วนที่ยังต้องดำเนินการแก้ไขอีกมาก แม้จะบอกว่าสามารถแก้ไขควบคู่กันได้ก็ตาม  แต่ต้องให้ความสำคัญกับปัญหาเร่งด่วนก่อน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน