จีนตอบโต้สหรัฐไทยต้องติดตามใกล้ชิด

นนทบุรี 26 ส.ค. – พาณิชย์ย้ำจีนปรับภาษีตอบโต้สหรัฐไทยติดตามใกล้ชิด แม้กระทบส่งออก แต่หลายสินค้าไทยยังได้ประโยชน์


น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีจีนประกาศปรับแผนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐร้อยละ 5 – 10 รวม 5,078 รายการ มูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งมีแผนขึ้นภาษีรถยนต์ร้อยละ 25 และชิ้นส่วนยานยนต์ร้อยละ 5 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ว่า การขึ้นภาษีของจีนครั้งนี้มีเป้าหมายรายการสินค้าต่าง ๆ อาทิ ถั่วเหลือง ฝ้าย เนื้อหมูและวัว น้ามันดิบ เครื่องจักรและอุปกรณ์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์มือถือ และเซมิคอนดัคเตอร์ อุปกรณ์การแพทย์ และเครื่องบินเล็ก เป็นต้น โดยสหรัฐประกาศตอบโต้ทันที โดยเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าจีน  สินค้ากลุ่ม 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นร้อยละ  15 จากเดิมร้อยละ 10 บังคับใช้ 1 ก.ย. และ 15 ธ.ค. 62 และสินค้ากลุ่ม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นภาษีไปแล้วเป็นร้อยละ 30 จากเดิมร้อยละ  25 มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 อีกทั้งสั่งการให้บริษัทเอกชนของสหรัฐถอนการลงทุนออกจากจีนทันที

อย่างไรก็ตาม มาตรการของจีนค่อนข้างเฉพาะเจาะจงและมุ่งเป้าสินค้าที่เป็นฐานเสียงสาคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นหลัก เช่น ในแถบ Midwest และตอนใต้ ที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรผู้ส่งออกถั่วเหลือง อีกทั้งสินค้าส่งออกสำคัญของสหรัฐในตลาดจีน ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ รวมถึงน้ำมันดิบ โดยจีนยังเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบที่สำคัญของสหรัฐ มีสัดส่วนประมาณ 6% ของการส่งออกต่อปี ตลอดจนอุตสาหกรรมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี และเครื่องจักรของสหรัฐ ทั้งนี้ สนค.ได้ตรวจสอบรายละเอียดรายการสินค้าที่จีนขึ้นภาษีสหรัฐ พบว่าสินค้าส่วนใหญ่จีนได้ใช้มาตรการตอบโต้สหรัฐไปแล้วก่อนหน้านี้ ในล็อต 250,000 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ ขณะที่มีสินค้าใหม่ประมาณ 2,000 รายการ และพบว่าสินค้าไทยมีศักยภาพในการเป็นแหล่งส่งออก ทดแทนในหลายรายการ อาทิ ปลาแช่แข็งและแปรรูป ผลิตภัณฑ์นมและครีม เครื่องจักรสาน เคมีภัณฑ์ เครื่องจักร และส่วนประกอบ อุปกรณ์ไฟฟ้า ส่วนประกอบและอุปกรณ์


อย่างไรก็ตาม แม้การตอบโต้ครั้งล่าสุดระหว่างสหรัฐและจีนจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกไทย แต่ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นสร้างความวิตกกังวลว่าจะเร่งส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะชะลอตัว ซึ่งก่อนหน้านี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศไทย (IMF) ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกกำลังขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลง และ IMF ได้ประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2562 ไว้ที่ร้อยละ 3.2 ซึ่งเดือนกรกฎาคม 2562 ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ  3.3 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อีกทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจในจีนและเยอรมนี ประเด็นเรื่อง Brexit ความตึงเครียดในฮ่องกง หรือการลาออกจากตำแหน่งผู้นำอิตาลี ล้วนเป็นความเสี่ยงที่ทำให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากนี้  ประเด็นค่าเงินก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถทางการแข่งขันด้านราคาของสินค้า ไทยในตลาดที่สาม ค่าเงินหยวนมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเรื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่วันนี้ (26 ส.ค.) ค่าเงินหยวนในประเทศซื้อขายในตลาดเอเชียร่วงลงมาอยู่ที่ 7.1487 หยวนต่อ 1 ดอลลาร์ อ่อนค่าสุดในรอบกว่า 11 ปี นับตั้งแต่ต้นปี 2551 อย่างไรก็ตาม คาดว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในแถบยุโรป และญี่ปุ่น และแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยอีกหลายประเทศจะช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงที่เหลือของปี ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าธนาคารกลางของสหรัฐ (FED) จะลดอัตราดอกเบี้ยอีกปีนี้เพื่อรักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในระยะที่ค่าเงินมีแนวโน้มผันผวน ผู้ส่งออกควรเร่งทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และผู้นำเข้าควรทำสัญญาระยะยาวกับคู่ค้า เพื่อเป็นหลักประกันการซื้อขาย และลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนจากข้อพิพาททางการค้า

นอกจากนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าสหรัฐจะใช้มาตรการใดต่อไป ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นส่งผลให้รูปแบบทางการค้าและการลงทุนเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่คิด ทั้งนี้ ไทยควรใช้โอกาสที่สหรัฐส่งสัญญาณชัดเจนให้บริษัทพิจารณาแหล่งผลิตอื่น ๆ กระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและดึงดูดการลงทุนจากสหรัฐ รวมถึงประเทศอื่น ๆ ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากข้อพิพาททางการค้า ในส่วนของการส่งออก แม้ว่าการส่งออกจะชะลอตัวบ้างและจะต้องติดตามสถานกาณณ์เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด แต่ยังเห็นโอกาสในหลายจุด เช่น การส่งออกไปยังสหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมายังคงขยายตัวถึงร้อยละ  16.3 แสดงให้เห็นว่าไทยยังมีสินค้าหลายรายการที่แข่งขันได้ ดังนั้น ต้องใช้จุดแข็งแสวงหาโอกาสในการส่งออกเพิ่ม ซึ่งการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ กรอ.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชนเตรียมมาตรการกระตุ้นการส่งออกการค้าชายแดน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มีสัดส่วนต่อการส่งออกค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นโอกาสที่จะนำสินค้าไทยแทรกเข้าไปในหลาย ๆ ตลาด เพื่อกระจายความเสี่ยงตลาดส่งออก ลดการพึ่งพาตลาดเดิม ตลอดจนการลดอุปสรรคทางการค้า เพื่อสนับสนุนการทาธุรกิจของภาคเอกชน และทีมวอร์รูม (War Room) จะติดตามสถานการณ์สงครามการค้าอย่างใกล้ชิดและเสนอแนวทางรับมืออย่างทันท่วงที และเฝ้าระวังการนาเข้าในกลุ่มสินค้าสาคัญ ได้แก่ เหล็กกล้าและ ผลิตภัณฑ์ฯ อะลูมิเนียม เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า รองเท้า และผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ เครื่องจักร ไฟฟ้าฯ ทองแดง และเคมีภัณฑ์ เพื่อป้องกันการสินค้าไหลเข้ามาไทยเป็นจานวนมากจากมาตรการภาษีระหว่าง สหรัฐและจีนที่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศและผู้บริโภค รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดการใช้ไทยเป็น แหล่งสวมสิทธิ์แหล่งกาเนิดสินค้าอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]