คมนาคมผุดไอเดียยกไม้กั้นด่านเก็บเงิน แก้รถติด

23 ส.ค.-กระทรวงคมนาคมผุดไอเดียยกไม้กั้นหน้าด่านเก็บเงินบนทางด่วน แก้ปัญหารถติดหน้าด่าน ช่วยลดเวลาผ่านด่านของรถแต่ละคัน  แต่นักวิชาการแนะอาจต้องปรับเปลี่ยนกฎหมายให้สอดคล้องกับนโยบาย ติดตามรายงาน


ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่า ระยะเวลาจ่ายเงินในช่องทางด่วนมอเตอร์เวย์ ทางปกติที่ใช้เงินสดจะใช่เวลาเฉลี่ยคันละ 10 วินาที โดยในเวลา 1 นาที จะมีปริมาณรถที่ผ่านช่องทางเก็บเงินได้ 6 ถึง 7 คัน 


ส่วนช่องทางอีซี่พาส และเอ็มพาส จะใช้เวลาเฉลี่ยคันละ 3 วินาที ทำให้ใน 1 นาที จะมีปริมาณรถผ่านช่องเก็บเงินได้ 20 ถึง 30 คัน  แต่ที่ผ่านมายังพบปัญหาการชะลอตัวบริเวณหน้าด่านเหมือนเดิม ทำให้กระทรวงคมนาคมผุดไอเดียยกไม้กั้นทางด่วน และมอเตอร์เวย์ขึ้นในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งเช้า และเย็น เพื่อแก้ปัญหารถติดหน้าด่าน  

โดยในช่องเงินสดจะให้เจ้าหน้าที่มายืนขายคูปองหน้าด่านในเวลาเร่งด่วน เรียงเป็นแถวช่องละ 10 คน เพื่อให้รถชำระเงิน และผ่านได้สะดวก ส่วนในช่องอีซี่พาส และเอ็มพาส จะยกไม้กั้นขึ้นตลอดเวลา แล้วให้รถที่ติดบัตรวิ่งออกจากด่านทันที หลังจากตัดเงินอัตโนมัติเรียบร้อย ไม่ต้องรอไม้กั้นเปิด ถ้าหากกรณีรถที่ไม่มีเงินในบัตร ก็จะใช้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และบัตรที่ไม่มีการบันทึกข้อมูลการจ่ายเงิน เป็นหลักฐานติดตามเก็บเงินย้อนหลัง 


นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งระบุว่า มีการเก็บข้อมูล กรณีที่ไม่ต้องใช้ไม้กั้นทางด่วนในช่องเก็บเงินอัตโนมัติมาแล้ว และพบว่า ช่วยลดเวลาให้เหลือน้อยกว่า 3 วินาทีได้ โดยรถที่ขับเข้าด่านเก็บเงินสามารถทำความเร็วได้ประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ไม่ต้องจอดนิ่งสนิท เพื่อรอไม้กั้นยกตัวขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เพราะใช้ไม่ได้กับรถบางประเภทเช่น รถบรรทุก รวมถึงยังไม่มีข้อกฎหมายระบุหน่วยงานที่รับผิดชอบติดตาม และปรับเงิน กรณีมีผู้ขับไม่ยอมจ่ายเงินค่าผ่านทาง

นักวิชาการบอกด้วยว่า ปัญหาจราจรติดขัดหน้าด่านไม่ได้ขึ้นอยุ่กับการเปิด หรือปิดไม้กั้นหน้าด่านจ่ายเงินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงปัญหาอีกหลายด้านที่ทำให้เกิดการจราจรติดขัด เช่น ปริมาณรถที่เพิ่มจำนวนขึ้น รถบางประเภทเช่น รถที่มี 4 ล้อขึ้นไป ยังไม่สามารถผ่านช่องจ่ายเงินอัตโนมัติได้ และผู้ใช้รถที่จ่ายเงินอัตโนมัติยังน้อยกว่าการใช้เงินสด จึงเสนอให้สร้างแรงจูงใจ อย่างจัดโปรโมชั่นให้คนใช้รถหันมาใช้อีซี่พาส และเอ็มพาสมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.เพื่อไทย

“อนุสรณ์” ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.พรรคเพื่อไทย เชื่อมนต์ขลัง “ทักษิณ”-ผลงานรัฐบาลแพทองธาร เป็นปัจจัยความสำเร็จ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม