กรุงเทพฯ 11 ส.ค.- มูลนิธิปวีณาพร้อม ผู้ปกครองติดตามความคืบหน้าหลังเด็กหญิงเอ วัย 6 ขวบถูกกระแสไฟฟ้าดูด ขณะวิ่งเล่น อยู่ในสนามกีฬาวัด คลองเตยใน พื้นที่ สนท่าเรือ
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พานายธงชัย ศรีใส อายุ 27 ปี และนางปราณี อุ้มแสง อายุ 51 ปี พ่อและย่าของเด็กหญิง เอ นามสมมุติ อายุ 6 ปี ที่ถูกกระแสไฟฟ้าจากเสาสปอร์ตไลท์ บริเวณลานกีฬาชุมชน วัดคลองเตยใน 3 ช๊อตบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เข้าพบพนักงานสอบสวนสน.ท่าเรือ ติดตามตามความคืบหน้าคดี หลังทางผู้ปกครอง แจ้งความกับพนักงานสอบสวนแต่คดีไม่คืบ
นายธงชัย บิดา ระบุ หลังแยกทางกับภรรยา ตนรับภาระเลี้ยงดูบุตรทั้งสาว 2 คน วันที่ทำงาน นางปราณี ย่า จะเป็นคนเลี้ยงดูบุตรสาว วันเกิดเหตุบุตรสาวคนโตวัย 6 ขวบ กลับจากโรงเรียนได้ไปวิ่งเล่นในสนามกีฬาตามปกติ ขณะวิ่งเล่นได้ถือแก้วน้ำและยืนพิงกับเสาไฟฟ้าส่องสว่างกลางลานกีฬาก่อนล้มลงกับพื้น ตามร่างกายพบรอยไหม้ที่แผ่นหลัง ขา และนิ้วเท้า เป็นแผลพุพองขนาดใหญ่ นางปราณีจึงเรียกคนในละแวกมาช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นนำตัวส่งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ก่อนส่งมารักษาต่อที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่า หัวใจหยุดเต้นชั่วขณะ คาดว่าเกิดจากการโดนไฟช๊อต
หลังเกิดเหตุ สำนักงานเขตคลองเตยได้มอบเงินช่วยเหลือ 3.000 บาท และการไฟฟ้านครหลวงมอบเงินให้ 2.000 บาท แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดแสดงความรับผิดชอบช่วยเหลืออย่างจริงจัง เนื่องจากอาการของบุตรสาวเข้าขั้นวิกฤติ แพทย์ ระบุล่าสุดว่า อาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา เนื่องจากต้องเจาะ คอและท้องเพื่อให้อาหาร จึงคาดว่าจะใช้เวลารักษานาน จึงขอเรียกร้องให้บุคคลที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ รวมทั้งสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ด้านนางสาวปวีณา ระบุว่า ยังไม่ชัดเจนว่าเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าว ใครเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนการเข้าพบพนักงานสอบสวนต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามารับผิดชอบช่วยเหลือผู้เสียหาย และหาทางแก้ไขให้ชัดเจนเพื่อป้องการเกิดเหตุซ้ำ
ขณะที่ นางสาว บุรัสกร บุญญติพงษ์ 1 ในกรรมการชุมชน เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางคณะกรรมการได้เข้าไปติดต่อ โรงพยาบาล และดำเนินการ ออกค่าใช้จ่าย ทั้งหมดให้กับผู้เสียหายแล้ว กว่า 1 แสนบาท หลังจากนี้จะประชุมคณะกรรมการ เพื่อสรุปแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยา หากในอนาคตจะต้องมีการดูแลผู้เสียหายอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน พ.ต.ท. พีระธรรม คำจร รองผกก.ป สน.ท่าเรือ ระบุว่า ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและติดตาม หน่วยงานหรือบุคคลมาสอบสวน ยืนยันว่าจะต้องมีผู้รับผิดชอบทางคดี ส่วนความเสียหาย จะต้องมีการดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย