บุรีรัมย์ 19 ส.ค.-นายกฯ ยืนยันไม่ลาออก เปรียบตัวเองเป็นกระท้อน ยิ่งทุบ ยิ่งหวาน เผยเตรียมผลักดันศึกษาโครงการโขง ชี มูล แก้ภัยแล้ง ขอบคุณทุกคนที่เสียสละที่ดินเพื่อประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง ที่ จ.บุรีรัมย์ แล้วเดินทางต่อด้วยรถยนต์ไปตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก โครงการชลประทานบุรีรัมย์ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ โดยมีประชาชนมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก พร้อมเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์บ้านสวายสอข้าวอินทรีย์ ได้ขึ้นบนหอดูนก ส่องกล่องเทเลสโคป เพื่อดูนกกระเรียนพันธุ์ไทย ซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองและหาดูได้ยาก โดยในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ มีเกิน 50 คู่ โดยเฉพาะที่หากินที่ห้วยจรเข้มาก
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ถ่ายภาพร่วมกับกลุ่มประชาชนที่อนุญาตให้ทางการเข้าไปในที่ดินเพื่อทำระบบผันน้ำ ลำปะเทีย-อ่างเก็บน้ำห้วยตลาดในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง จำนวน 118 คน หลังได้มอบประกาศนียบัตร โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชน ว่า ไม่เคยผิดหวังมาบุรีรัมย์ และดีใจที่ได้มาพบทุกคนอีกครั้ง ซึ่ง จ.บุรีรัมย์มีศักยภาพหลายอย่าง ส่วนแผนงานที่เสนอมาจะจัดลำดับความเร่งด่วน และอยากขอบคุณทุกคนที่เสียสละที่ดินเพื่อประโยชน์ของประเทศ เหมือนดังคำขวัญของทหารที่ว่า “น้ำใจและไมตรีต่อชีวีเมื่อยังคง มีค่ากว่าไตรรงค์ ใช้คุมองค์เมื่อยามตาย” ฉะนั้นต้องทำความดีเมื่อมีชีวิตอยู่
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนสวดมนต์ภาวนาอยากให้ฝนตก แผนงานโครงการเสนอมา จะไปพิจารณาในสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกัน โครงการโขง ชี มูล ตนคิดมาหลายปีแล้ว แต่อยูในขั้นตอนการศึกษา ต้องมีการเจรจาระหว่างประเทศ ที่จะมีการผันน้ำ และการเพิ่มความจุของอ่าง ทุกอย่างต้องใช้งบฯ มหาศาล รวมถึงต้องไปดูกฎหมายด้วย
“พูดก็เหนื่อยเหลือเกิน พอทำเหนื่อยกว่าอีก เหนื่อยมา 5 ปีแล้วนะ เดี๋ยวจะหาว่าผมมาบ่น ผมไม่ได้มาบ่น เขาบอกว่าบ่นมากก็ให้ออกไปซิ แหม่ ทำไมใจร้ายกับผมจริง ๆ วันนี้เรามาช่วยทำงานในรัฐบาลใหม่ ไม่ได้บ่นอย่างนั้น แต่บางทีผมบ่นตัวเอง ไม่ได้เกี่ยวกับใครเลยสักคน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ถามว่ามีใครอยากให้นายกรัฐมนตรีลาออกบ้างให้ยกมือ
“ที่นี้ไม่มี แต่มีที่อื่น ผมยังไม่ลาออกแน่นอน ไม่มีลาออก เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมเหมือนกระท้อนยิ่งทุบ ยิ่งตี ยิ่งอร่อย ยิ่งหวาน ผมชอบ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนชื่นชมและเชื่อมั่น จ.บุรีรัมย์ และกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรี ก้าวไปสู่จุดหมายหมายปลายทางของนักลงทุนและนักท่องเที่ยว รัฐบาลมีอีกหลายพื้นที่ปลดล็อกไปเรื่อย ๆ ว่าจะทำอย่างไรให้มีการลงทุนในทุกพื้นที่ หลายจังหวัดที่ไม่ได้ไป ก็จะดูแล ช่วงนี้เป็นช่วงปลายปีงบประมาณ ซึ่งกำลังพิจารณางบฯ ปี 2563 ที่อาจล่าช้าไปถึงเดือนมกราคม 2563
“เรื่องการเมืองก็เดินหน้าไปตามขั้นตอน อาจเสียเวลาอยู่บ้างช่วงนี้ แต่ไม่ได้ระงับการจ่ายอะไร บางโครงการก็ใช้งบฯ ได้ไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ในงบฯ ปีหน้า ฉะนั้นอะไรที่ทำให้ได้ ก็จะทำให้ ในวันพรุ่งนี้มีหลายเรื่องต้องนำเข้า ครม. เพราะ 2 สัปดาห์นี้เป็นช่วงปลายปีงบประมาณ เวลาก็จำกัด ฉะนั้นต้องผูกพันงบประมาณให้ได้ ถ้าพูดว่าต้องการงบฯ แต่ไม่เข้าใจระเบียบงบประมาณ ไม่เข้าใจวิธีการเงินการคลัง ผมบอกเลยทำไม่ได้ทั้งหมด เพราะถ้าทำไปก็อันตราย หากมีการตรวจสอบทุจริต ครม.ก็จะกระทบ ผมไม่อยากให้ ครม.ล้มไปแบบนั้น ต้องมีกระบวนการคิดเหมือนต่อเลโก้ และขอคนไทยอย่าทำลายศักยภาพ ทั้งนี้ จำใจลาด้วยน้ำตา เสียดายไม่ได้เป็นลูกเขยบุรีรัมย์ แต่แต่งงานแล้ว แก่แล้วด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินทักทายและถ่ายรูปกับประชาชน ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ.-สำนักข่าวไทย