ลูกเรือไทยในโซมาเลีย เตรียมกลับไทยอีก 14 คน

ก.แรงงาน 19 ส.ค.-รมว.แรงงาน เผย 20 ลูกเรือไทยในโซมาเลียลำที่ 2 แจ้งขอกลับบ้าน 14 คน ส่วนอีก 6 คนที่เหลือขอทำงานต่อที่อิหร่าน


ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในโซมาเลีย ว่า ลูกเรือประมงไทยในโซมาเลีย ชื่อเรือ ‘วาดานิ 2’ ขณะนี้ขึ้นจากเรือแล้ว ทุกคนปลอดภัย โดยมีลูกเรือ 20 คน เป็นชาวบุรีรัมย์ 6 คน ระนอง 3 คน สมุทรสาคร,  สุรินทร์และนครพนม จังหวัดละ 2 คน ส่วนที่เหลือเป็นชาวชัยภูมิ สกลนคร อุบลราชธานี หนองคาย และอุทัยธานี จังหวัดละ 1 คน 


สำหรับลูกเรือไทย 14 คน แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ส่วนอีก 6 คน ประสงค์จะทำงานกับนายชารีฟที่ประเทศอิหร่าน โดยลูกเรือไทยทั้ง 14 คน จะได้รับการช่วยเหลือจากนายชารีฟนายจ้างชาวอิหราานจ่ายค่าวีซ่าให้ และให้เงินเดือนล่วงหน้า เดือน ส.ค.1 เดือน โดยนำมาเป็นค่าตั๋วเครื่องบินกลับไทย เส้นทางเมืองบันดาอับบาส เตหะราน กรุงเทพฯ เงินใช้จ่ายส่วนตัวระหว่างเดินทาง และเป็นค่าใช้จ่ายกลับภูมิลำเนา 


ขณะที่การดำเนินงานช่วยเหลือ พบประเด็นปัญหา 2 ประการที่ต้องเร่งแก้ คือการเดินทางไปทำงานประมง ที่ทราบว่าลูกเรือมีบริษัทนายหน้าส่งไปทำงาน เจ้าของคือ ‘เสี่ยช้าง’ นิธิวัฒน์ ซึ่งกระทรวงเร่งดำเนินการช่วยเหลือในส่วนค่าแรงชดเชยที่ลูกเรือควรได้รับ ส่วนอีกประเด็นคือระบบโครงสร้างระบบการทำงาน ตนคิดว่าต้องไล่ดูในรายละเอียดทุกส่วน ตั้งแต่เริ่มต้นถึงปลายทางในการส่งแรงงานไปทำงานในต่างประเทศ ยอมรับยังเป็นปัญหาด้านธรรมาภิบาล ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการ

ขณะที่ น.ส.โสพิศ หมัดป้องตัว อัครราชทูตที่ปรึกษา(ฝ่ายแรงงาน) ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดินทางไปพบแรงงานไทยในโซมาเลียทุกคนได้รับการช่วยเหลือปลอดภัยดีและขึ้นมาจากเรือทั้งหมด โดยได้เดินทางไปพบปะลูกเรือไทยที่เมืองบันดาอับบาส ประเทศอิหร่าน และแจ้งให้ทราบถึงความห่วงใยของรัฐบาลไทย และกระทรวงแรงงาน 

ทั้งนี้ ได้พูดคุยกับลูกเรือทั้งหมด 20 คนเป็นสมาชิกกองทุน 7 คน เพื่อรับ ทราบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนและความต้องการลูกเรือ พร้อมทั้งเจรจาหาข้อสรุปที่เหมาะสมร่วมกัน จากการพูดคุยพบว่านายชารีฟ นายจ้างชาวอิหร่านและ Mr.Armil บุตรชาย ไม่ใช่ผู้สร้างปัญหากับลูกเรือตามที่หลายฝ่ายกังวล แต่นายชารีฟและครอบครัวเข้ามาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนลูกเรือ เนื่องจากมีความสนิทคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่อาจเป็นปัญหาจากการขายเรือ 2 ลำให้กับทางโซมาเลียจนเกิดปัญหานี้ขึ้น

นอกจากนี้ได้มอบอาหารแห้งของไทย เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ข้าวสารเหนียว น้ำปลาร้า ตลอดจนเอกสารข้อมูลที่สำคัญด้านแรงงานให้ กับลูกเรือไทย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องกองทุนฯ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ 

อย่างไรก็ตาม ลูกเรือที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย กระทรวงแรงงานจะจัดรถไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนหางานจะช่วยอำนวยความสะดวกและรับลูกเรือไปที่กระทรวงแรงงานเพื่อดำเนิน การยื่นเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ยักยอกเงิน ตลอดจนยื่นเรื่องขอรับการช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ สำหรับผู้เป็นสมาชิกกองทุนฯจะได้รับการช่วยเหลือตามระเบียบกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เป็นค่าพาหนะ (ในต่างประเทศ) ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็น เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท คาดว่าลูกเรือทั้ง 14 คนจะกลับถึงไทยสัปดาห์หน้า .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]