สศอ.เสนอรัฐบาลไทย-อินเดียทวิภาคีเชื่อมโยงอุตสาหกรรม

กรุงเทพฯ 12 ส.ค.-นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีนโยบายปรับแผนการเจรจาการค้า ให้อยู่ในรูปแบบหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ทวิภาคี มากกว่าการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ประกอบกับการที่ไทยมุ่งสู่ Industry 4.0 การแสวงหาโอกาสและลู่ทางสร้างความเชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรมระหว่างกันน่าจะส่งผลดีต่อทั้งสองประเทศ
โดย สศอ.เห็นว่า ประเทศไทยและอินเดีย อาจพิจารณาจัดทำโครงการความร่วมมือทวิภาคีไทย-อินเดีย ด้านอุตสาหกรรมเป็นการเฉพาะ หรือ India Thailand Industrial Cooperation Scheme : ITICS โดยระบุเป็นรายโครงการที่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องร่วมกัน พร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกเพื่อช่วยลดปัญหาและอุปสรรคทางการค้า โดยเฉพาะภาษีศุลกากร และการจำกัดปริมาณโควตา โดยผลจากการติดตามการเยือนอินเดียล่าสุดของนายกรัฐมนตรีเมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับอุตสาหกรรมหลักของไทยน่าจะเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตกับภาคอุตสาหกรรมอินเดียคือ 3 อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าส่งออกไปอินเดียสูงสุด คือ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์,เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และ ยางพารา โดยมีโอกาสในการเชื่อมโยงกับ 4 เมืองเศรษฐกิจหลักของอินเดีย ได้แก่ เดลี มุมไบ เชนไนและกัลกัตตา
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทย ต้องพิจารณาในการเข้าไปร่วมทำธุรกิจกับอินเดีย คือ เรื่องกฎหมายและภาษี เนื่องจากอินเดียมีโครงสร้างทางด้านภาษีที่มีความซับซ้อน ซึ่งในแต่ละรัฐจะมีกฎหมายและโครงสร้างภาษีที่แตกต่างกันผู้ประกอบการจึงควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด รอบคอบ โดยภาครัฐจำเป็นต้องสนับสนุนการจัดหาและถ่ายทอดองค์ความรู้และความชัดเจนเกี่ยวกับข้อมูลด้านกฎหมายและระเบียบวิธีปฏิบัติต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการด้วยเช่นกัน
นายศิริรุจ กล่าวว่า ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ พบว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสในการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตระหว่างกันมากที่สุด คือ ส่วนประกอบและชิ้นส่วนรถยนต์ (HS 8708) ส่วนประกอบและชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ (HS 8714) และตัวถัง (HS 8707) เนื่องจากตลาดยานยนต์ภายในประเทศอินเดียมีขนาดใหญ่ มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์สองล้อ สำหรับเมืองของอินเดียที่มีโอกาสในการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตกับไทยในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนมากที่สุด คือ เชนไน และมุมไบ


ส่วนอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ พบว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตระหว่างไทยกับอินเดียมากที่สุด คือ เครื่องปรับอากาศและคอมเพรสเซอร์ ซึ่งทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์อยู่ในกลุ่มสินค้าเร่งลดภาษี (Early Harvesting Scheme: EHS) 83 รายการ ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย ทำให้ประเทศไทยได้เปรียบคู่แข่งขันจากประเทศอื่นๆ ด้วยอัตราภาษีศุลกากรขาเข้าของอินเดียลดลงเหลือ ร้อยละ 0 และความต้องการเครื่องปรับอากาศและคอมเพรสเซอร์ในตลาดอินเดียมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญสินค้าไทยผลิตได้ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สามารถผ่านเข้าสู่ตลาดอินเดียได้ สำหรับเมืองของอินเดียที่มีศักยภาพในการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์กับไทย มากที่สุด คือ เชนไน

สำหรับอุตสาหกรรมยางพารา พบว่า ยางธรรมชาติ ซึ่งประกอบไปด้วย ยางแผ่นรมควัน และยางแท่ง รวมถึงผลิตภัณฑ์ล้อยาง ได้แก่ ล้อยางรถยนต์ ล้อยางรถบัสและรถแทรกเตอร์ ล้อยางเครื่องบิน และล้อยางรถจักรยานยนต์ เป็นผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมยางพาราที่ไทยมีการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตกับอินเดียมากที่สุดด้วยศักยภาพการผลิตยางธรรมชาติที่ไทยสามารถผลิตได้มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ประกอบกับปัจจุบันยางธรรมชาติที่อินเดียผลิตได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ภายในประเทศ อีกทั้งอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นต้องใช้ยางธรรมชาติเป็นวัตถุดิบในการผลิตมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้อินเดียมีความต้องการใช้ยางธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ของอินเดียส่งผลให้มีการส่งออกล้อยางของไทยไปยังอินเดียมูลค่าสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเมืองที่มีศักยภาพในการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตอุตสาหกรรมยางพาราไทย-อินเดีย คือ เชนไน และมุมไบ-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม