กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,619.45 จุด ลดลง 0.78 จุด (-0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 71,270.53 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า ขณะที่ช่วงบ่ายดัชนีฯลดช่วงบวกลงจนมาติดลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,640.92 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,612.09 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ในการเทรดช่วงเช้าดัชนีฯสามารถรีบาวด์ขึ้นไปได้ ตอบรับผ่อนคลายสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ภายหลังจากที่สหรัฐฯได้เลื่อนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไปบางส่วน แต่การเทรดช่วงบ่ายดัชนีฯได้อ่อนตัวลงมาจนติดลบ จากแรงกดดันกลุ่มแบงก์ที่ปรับตัวลงนำตลาดฯ ภายหลังจากที่ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และธนาคารกรุงไทย (KTB) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้ไปกระทบส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ให้แคบลง ทำให้กำไรลดลงด้วย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในช่วงบ่ายนี้ต่างก็ลดช่วงบวกลงด้วย อย่างไรกีดี ยังต้องติดตามสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนต่อไป และติดตามการทบทวนประมาณการของบริษัทจดทะเบียนหลังจากที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/62 ส่วนใหญ่จะออกมาไม่สดใส ซึ่งก็มีโอกาสที่จะถูกปรับลดประมาณการได้และอาจจะไปกดดันราคาหุ้นด้วย ส่วนการประท้วงที่ฮ่องกงก็กระทบในแง่ Sentiment แต่ในแง่เศรษฐกิจยังไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยยะ
ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 2,087.54 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,563.51 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,966.47 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 3,442.45 ล้านบาท . – สำนักข่าวไทย