กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – ราคาทองคำในประเทศร่วงแรง 400 บาท นักลงทุนคลายกังวลสงครามการค้า นายกสมาคมค้าทองคำคงเป้าปีนี้ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำวันนี้ปรับตัวลดลงแรง 400 บาท โดยราคาทองคำแท่ง ซื้อเข้าบาทละ 21,800 บาท ขายออกบาทละ 21,900 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณซื้อเข้าบาทละ 21,405.92 บาท ขายออกบาทละ 22,400 บาท เนื่องจากราคาทองในตลาดโลกปรับตัวลงถึง 31 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากแรงขายทำกำไร หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากที่สหรัฐประกาศเลื่อนการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอกอไปเป็นวันที่ 15 ธันวาคม จากเดิมวันที่ 1 กันยายนนี้ ทำให้มีแรงขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ประกอบกับที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาแรงเกือบ 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ขณะที่ราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นเกือบ 3,000 บาท จาก 19,000 เป็น 22,300 บาทเมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ดังนั้น การเทขายทำกำไรจึงเป็นเรื่องปกติ โดยยังคงเป้าหมายราคาทองคำปีนี้ว่าไม่เกิน 1,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากปัจจุบัน 1,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ดังนั้น หากนักลงทุนมีกำไรทยอยขายและรอสะสมจังหวะราคาอ่อนตัว
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่าราคาทองคำเมื่อวานเคลื่อนไหวผันผวน โดยช่วงกลางวันปรับขึ้นต่อเนื่องและทำจุดสูงสุด 1,534 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ในช่วงกลางคืนราคาทองคำปรับลงแรงและปิดตลาดที่ 1,501 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากสหรัฐประกาศเลื่อนการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนออกไปเป็นวันที่ 15 ธันวาคม จากเดิมวันที่ 1 กันยายน ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้มีแรงขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น สะท้อนให้เห็นจากกองทุน SPDR เริ่มขายทองคำสูงถึง 11.11 ตันเมื่อวาน หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ซื้อทองคำ 7.92 ตัน
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำ คาดเคลื่อนไหวลักษณะ Sideways down เนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนตึงเครียดลดลง แต่คาดยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาเมื่อราคาทองคำปรับลดลง โดยทองคำมีแนวรับ 1,480 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และ 1,470 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,520 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และ 1,530 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์.-สำนักข่าวไทย