อนาคตใหม่ 13 ส.ค.- โฆษกพรรคอนาคตใหม่ถามรัฐมนตรี ดีอี ตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เพื่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่มหรือไม่ แนะศึกษาคู่มือ UNESCO เป็นแนวทาง
น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าว ทวงถามนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ถึงความคืบหน้าการจัดการข่าวปลอม ว่า พรรคอนาคตใหม่ได้ติดตามเรื่องการก่อตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมของรัฐบาลมาโดยตลอด นายพุทธิพงษ์ ยืนยันว่า จะทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง และไม่ให้ถูกครหาได้ว่าใช้อำนาจรัฐไปเพื่อจำกัดการแสดงความคิดเห็นของประชาชน
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ดีอี นำเสนอผลงานล่าสุดออกมา คือ กรณีเปิดเผยถึงข่าวที่มีการเผยแพร่กันเรื่องนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการนำข่าวเก่ามาเผยแพร่ซ้ำว่าเป็นข่าวปลอม สะท้อนว่าการดำเนินงานของกระทรวงดีอี ค่อนข้างมีปัญหา ทั้งการนิยามและการปฏิบัติต่อข่าวปลอมที่เกิดขึ้นกับบุคคลต่างๆ มีการเลือกที่จะตอบโต้ข่าวที่กระทบผลงานของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า การที่นายพุทธิพงษ์ระบุว่า จะให้มีสำนักข่าวหรือสื่อเข้าไปช่วยให้ข้อมูลกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมด้วย ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดี แต่ก็ขอเรียกร้องให้กระทรวงดีอีเปิดเผยข้อมูลในส่วนนี้ออกสู่สาธารณชนด้วยว่า สำนักข่าวใดบ้างที่กระทรวงได้เลือกเข้าไปให้ข้อมูล เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าสำนักข่าวต่างๆ ล้วนแต่มีจุดยืนทางการเมืองไม่เหมือนกัน
“ขอเรียกร้องว่า การทำงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ควรที่จะยึดหลักสากลตามคู่มือของ UNESCO ที่เพิ่งเผยแพร่ตีพิมพ์ออกมาเมื่อไม่นานมานี้ และได้รับการยอมรับว่ามีความเป็นกลาง เป็นวิชาการ และมีความเป็นสากล” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญหนึ่งที่ UNESCO ยกมา คือไม่ควรที่จะให้รัฐเข้ามาเป็นผู้จัดการข่าวปลอมโดยลำพัง เพราะหากให้รัฐเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสิน และควบคุมว่าข่าวใดจริงหรือปลอม จะมีความเสียงอย่างสูงที่รัฐจะใช้อำนาจในทางมิชอบไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของสื่อ และไปตัดสินว่าข่าวใดจริงหรือปลอม โดยอิงกับผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก
นอกจากนี้ น.ส.พรรณิการ์ ยังฝากถึงนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และผู้บัญชาการทหารบก ว่า การที่พูดว่าพวกปล่อยข่าวปลอมเป็นผู้ไม่หวังดี ทำลายชาติบ้านเมือง เป็นการตอบแบบกำปั้นทุบดิน เพราะทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่า ผู้ปล่อยข่าวปลอมไม่ใช่ผู้หวังดีและเป็นภัยต่อชาติบ้านเมือง ประชาชนไม่ได้ต้องการรับรู้เรื่องนั้น แต่ต้องการรู้ว่าจะจัดการกับเรื่องเหล่านั้นอย่างไร
“อย่าให้ประเทศไทยเดินไปถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 หรือ พฤษภา 53 ที่ข่าวปลอมทำให้คนลุกขึ้นมาฆ่ากันโดยที่เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ อย่าให้ไปถึงขั้นนั้นเราค่อยได้รับรู้ว่า รัฐบาลจะจัดการอย่างไร” น.ส.พรรณิการ์กล่าว . – สำนักข่าวไทย