“พรรณิการ์” ชี้หวังสูงไป พรรคดูด สส. 30-40 คน เพื่อแทน “พรรคภูมิใจไทย”

รัฐสภา 15 พ.ค.-“พรรณิการ์” มองพรรคการเมือง ตั้งเป้าดูด สส. 30-40 คน เพื่อแทน “พรรคภูมิใจไทย” เป็นเรื่องเกินจริง ลั่นหวังสูงไป หลังมีข่าวอยากได้ เก้าอี้ “มท.1”

น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวถึงที่น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 6 จังหวัดชลบุรี พรรคประชาชน แสดงความประสงค์จะย้ายไปพรรคกล้าธรรม และพรรคกล้าธรรม เองก็ระบุว่าจะมี สส.ฝ่านค้าน อีกหลายคนเตรียมย้ายเข้ามาร่วมพรรคอีกจำนวนมาก ว่า การที่โหม มีอีกหลายคนนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะพรรคกล้าธรรม ก็โหมมากว่า 2 เดือนแล้ว ตั้งแต่ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเป็นที่ทราบกันดี หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็จะมีการปรับ ครม. ดังนั้น การที่พยายามจะเปิดตัว สส.ย้ายร่วมพรรคก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นเรื่องของการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะฉะนั้น เราไม่สามารถแยกเรื่องงูเห่ากับ เสถียรภาพของพรรครวมได้เลย เพียงแต่ราคาคุย ที่บอกว่า มีจำนวน 20 หรือ 30 คน ตอนนี้ ก็เห็นชัดแล้วว่า มี “น.ส.กฤษฎิ์” เพียงคนเดียว แม้จะออกไปแบบเต็มตัวไม่ได้ แต่พรรคประชาชนเตรียมโหลไว้เยอะ พร้อมรองงูส่งเสริมสุราก้าวหน้า ส่วนจะมีงูเห่าเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ไม่สามารถรับรองแทนพรรค หรือ สส.แต่เท่าที่พูดคุยกับทีมจังหวัดชลบุรี และภาคตะวันออก ก็ยังถือว่าแน่นหนาอยู่


“ประชาชนทราบดี พรรคจะมีการกรองคนเป็นอย่างดี แค่ไหน และตนมองว่า การพัฒนาจากสมัยของตนตอนพรรคอนาคตใหม่ ที่มีงูเห่านับสิบ ตอนนี้มีเพียงแค่ 1 ก็ถือว่ามีพัฒนาการ แต่พอมีกล้วย มีแป้ง มันก็สามารถล่องูโผล่ออกมาจากถ้ำได้ เราก็ไม่รู้ว่า สุดท้ายจะมีงูเห่าอีกมาน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่าพรรคเดินต่อไปได้และประชาชนเข้าใจ เพราะปัญหาเรื่องของงูเห่า มีปัญหาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ ที่ระบุให้ สส.เมื่อถูกขับออกและย้ายพรรคได้ ซึ่งถือเป็นการเปิดทางให้มีการซื้องูเห่าโดยเฉพาะ รวมถึงเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล เมื่อมีการชักเข้าชักออก ทำให้มีคนคิดว่าหากมีการขยายมุ้ง ก็อาจจะได้เก้าอี้เพื่อนและตนได้ข่าวว่าอยากจะได้ถึง ตำแหน่ง มท.1 ก็มองว่า อันนี้หวังสูงไปนิดนึงการจะซื้องูเห่าให้ถึง 30-40 คน เพื่อมาแทนที่พรรคภูมิใจไทย มองว่าเป็นเรื่องที่เกินจริง แต่ที่พรรคกล้าธรรม บอกว่าจะถึง 20 คนนั้น ก็ขอให้รอดูกันต่อว่า จะมาจากไหน ถ้าจะมาจากพรรคประชาชน ถึงหลัก 10 ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นไปได้”

เมื่อถามว่ามองการเมืองลักษณะนี้เป็นอย่างไรนั้น น.ส.พรรณิการ์ มองว่า การเมืองถอยหลังไป กว่า 40 ปีได้ ตั้งแต่ยังมีคำหยาบที่เรียกว่า” กะหรี่การเมือง” ย้ายพรรคไปย้ายพรรคมา ซึ่งตนมองว่าสิ่งที่ประชาชนต้องช่วยกันประชาทัณฑ์ ว่า เมื่อเราพูดถึง งูเห่าหมายถึงคนทรยศ และไม่ได้หมายถึงทรยศต่อพรรคการเมืองแต่หมายถึง ทรยศต่อประชาชนที่เลือกมา เพราะอย่าง น.ส.กฤษฎิ์ ก็ชัดเจนแล้วว่าประชาชนเลือกมาเพราะเป็นพรรคก้าวไกล ประชาชนเลือกมาเพราะพรรคแต่พอถึงเวลาบอกว่าอุดมการณ์ไม่ตรงกัน และขอให้พรรคขับออกเพื่อให้ไปอยู่พรรคกล้าธรรม


อย่างไรก็ตามตน ก็มองว่า น.ส.กฤษฎิ์ มีอยู่ 2 ทางเลือก ก็คืออยู่ให้จบครบเทอม ครั้งหน้าก็เลือกตั้งลงในนามพรรคกล้าธรรม หรืออดทนไม่ได้ ร้อนรนไปหมด ก็ลาออก ซึ่งก็แฟร์ทั้งคู่ พรรคประชาชนก็ส่งคนในนามของพรรคประชาชนต่อ ให้ประชาชนเจ้าของอำนาจตัดสินใจอีกครั้ง แพ้คือแพ้ชนะคือชนะ แต่ตอนนี้ก็ชัดแล้วว่า น.ส.กฤษฎิ์ ไม่ต้องการลาออก เพราะไม่ต้องการ เสียสิทธิ์ในการเป็น สส.

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ ว่า การที่ธรรมกล้าธรรมดึง สส.งูเห่าอย่างนี้ เป็นการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี น.ส.พรรณิการ์ มองว่า คงไม่ซื้องูเห่าไปดูเล่น เพราะงูเห่าไม่ได้น่ารักอะไรและอีกมุมนึงก็เปลือง แต่แน่นอน ว่า ณ วันนี้ระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย ซึ่งตอนนี้ก็เหมือนละครหลังข่าวเป็นละครตบจูบแต่ช่วงหลัง เหมือนจะตบแรงแล้วไม่มีจูบ โดยภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ก็เล็งเห็นอยู่แล้วว่า พรรคไหน ถ้าหาเสียงสนับสนุนเสถียรภาพของรัฐบาล ก็จะมีอำนาจในการต่อรองมาก ซึ่งต้องยอมรับว่าในยุคนี้มีการซื้องูเห่าเป็นไปอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วสมัยของพรรคอนาคตใหม่การซื้องูเห่า ก่อนหน้านี้ก็ถูกซื้อโดยพรรคภูมิใจไทยเป็นหลัก แต่นายอนุทิน ชาญวีรกุล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็ไม่เคยออกมาพูดแบบตรงๆ บอกแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่าเขามาเอง แต่ในยุคนี้หัวหน้าพรรคกล้าธรรมกลับยกมือตัวเองขึ้นมาดม เนื้อหอม แสดงให้เห็นว่าใครต่อใครก็อยากย้ายเข้ามา ซึ่งตนมองว่าประชาชนไม่ได้ทานหญ้าว่าในการย้ายพรรคกลางเทอมแบบนี้ และไปพรรคกล้าธรรม ที่ตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่านโยบายและแนวทางพรรคเป็นอย่างไรเพราะว่าประชาชนก็ทราบกันดีอยู่

ส่วนกรณีที่พรรคกล้าธรรม ระบุว่า เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งปี 2570 ไม่ได้ต้องการต่อรองทางการเมือง ตนมอง ว่า ตลกแล้ว เพราะทุกคนก็รู้กันดี ว่า งูเห่าไม่ว่าจะสีส้มหรือสีแดงสอบตก 100% จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด โดยสถิติก็บอกแล้วว่าหากคาดหวังการเลือกตั้งครั้งต่อไปงูเห่าไม่สามารถที่จะกลับมาชนะการเลือกตั้งได้เพราะประชาชน จะลงทัณฑ์อย่างถึงที่สุด.-319.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]