คมนาคมสั่งตั้ง “ Social public hearing and Hotline”

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – รมว.คมนาคม สั่งทุกหน่วยงานในสังกัด ตั้ง “Social public hearing and  Hotline” เกาะติดโชเชียล มีเดีย และสายด่วน รับฟังปัญหาการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ และปัญหาโครงการระหว่างก่อสร้าง รวมถึงการกำหนดนโยบายค่าโดยสาร ยกตัวอย่างแท็กซี่ ที่รับเรื่องขอปรับราคา โดยจะฟังความเห็นประชาชนก่อนพิจารณาอนุมัติ 


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการกำกับระบบขนส่งโดยสารสาธารณะ ทั้งระบบของกระทรวงคมนาคม การขนส่งทางบก การขนส่งทางน้ำ การขนส่งทางอากาศ และการขนส่งทางราง รวมถึงหน่วยงานที่มีงานก่อสร้างทางกระทบผู้สัญจร ให้ตั้งทีม “Social public hearing and  Hotline” ในช่องทางโซเชียลมีเดีย (เพจ)ของแต่ละหน่วยงานที่มีอยู่แล้ว เพื่อเปิดหัวข้อให้ประชาชนทั่วไป สามารถเข้ามาแสดงความคิดเห็นเสนอแนะต่างๆได้อย่างอิสระ โดยจะให้แต่ละหน่วยงานเริ่มเปิดหัวข้อแสดงความคิดเห็นทางโซเชียลอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันอังคารที่ 13 ส.ค. – 27ส.ค.นี้ ก่อนที่จะให้แต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบสรุปกลับมายังตน เพื่อรวบรวมมาประกอบการพิจารณาก่อน 1 เดือนที่ทางกระทรวงคมนาคมจะได้มีการนัดกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ ผู้ประกอบการวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง,ผู้ประกอบการรถแท็กซี่มิเตอร์  มาสรุปเรื่องค่าบริหารและแก้ไขปัญหาในภาพรวมร่วมกัน 

“ทั้งนี้ย้ำว่า กรณีรถแท็กซี่ ก็ยังไม่ได้ให้ปรับราคา คมนาคม รับเรื่องข้อเรียกร้องไว้ แล้วจะรับฟังความเห็นผ่านช่องทางเหล่านี้เพื่อประกอบการตัดสินใจต่อไป โดยการเพิ่มรายได้แก่ผู้ขับรถแท็กซี่ ก็ยังมีอีกหลายช่องทาง เช่น การเพิ่มโฆษณาบนรถ และอื่นๆ” นายศักดิ์สยามกล่าว 


ทั้งนี้ที่ผ่านมา การบริการ หรือ ผู้โดยสารรถโดยสารสาธารณะในทุกประเภท จะมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน กับนโยบายของกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่กำกับดูแลมาโดยตลอด ดังนั้นเพื่อให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน กรณีที่มีกระแสข่าวความเข้าใจผิด หรือ นโยบายอะไรออกไป ทั้งเรื่องของการยกระดับปรับปรุงคุณภาพการบริการเพื่อสืบเนื่อง มาถึงการปรับค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการในอนาคต หรือการปรับเปลี่ยนเพื่อยกระดับ เพิ่มมาตรฐานการให้บริการ จึงได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานเปิดช่องทางโซเชียลให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเปิดกว้างและเต็มที่  

ขณะเดียวกันก็จะให้มีทีมเฉพาะเข้าไปตอบประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมร่วมกันทั้งฝ่ายผู้ให้บริการ และผู้ใช้บริหาร โดยหวังว่าความคิดเห็นต่างๆจะเป็นส่วนหนึ่งที่แต่ละหน่วยงานจะมาสรุป แยกประเภทของความต้องการ ความคิดเห็น ข้อคอมเม้นต์ทั้งทางที่ดีและไม่ดี มาประกอบการพิจาณาการปรับปรุงคุณภาพบริหาร และ การพิจารณาเพื่อปรับค่าโดยสารในระยะต่อไป ซึ่ง การเปิดช่องทาง “Social public hearing Hotline” ผ่านหน้าเพจของแต่ละหน่วยงานนั้น มั่นใจว่าจะไม่ทิ้งใคร ไว้ ข้างหลัง Thai First แน่นอน . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง