BIG STORY : จบคดี “แพรวา” อย่ามองเป็นความล่าช้ากระบวนการยุติธรรม

กรุงเทพฯ 9 ส.ค.- คดีแพรวาขับรถชนรถตู้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่มีการต่อสู้ยาวนาน 9 ปี กระทั่งศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ชดใช้เยียวยาผู้เสียหายทั้ง 27 ราย เงินเยียวยาที่ฝั่งจำเลยนำมาวางศาล มีการโอนเข้าบัญชีผู้เสียหายครบถ้วน และสามารถเบิกใช้ได้แล้วในวันนี้ ด้านกระทรวงยุติธรรม ระบุคดีที่มีการต่อสู้ถึง 3 ศาล ใช้ระยะเวลาและมีรายละเอียดต้องพิจารณา ไม่อยากให้มองว่าเป็นความล่าช้าของกระบวนการยุติธรรม


คดี “แพรวา” ขับรถชนรถตู้โดยสาร จนมีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บ 4 คน ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 53 และมีการต่อสู้คดีจนถึงชั้นศาลฎีกา และมีคำพิพากษาเมื่อต้นพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยจำเลยคือ แพรวาและครอบครัว ต้องชดใช้เยียวยาผู้เสียหาย 42 ล้านบาท ภายใน 28 สิงหาคมนี้ ซึ่งฝั่งจำเลยรวบรวบเงินได้ครบตามจำนวนก่อนครบกำหนดเวลา และนำมาวางต่อศาลเพื่อชดใช้ให้แก่ผู้เสียหาย 27 ราย โดยฝั่งทนายโจทก์ตรวจสอบความถูกต้อง และอธิบดีศาลแพ่งเซ็นอนุมัติเงินเยียวยาเข้าบัญชีผู้เสียหายเมื่อวานนี้ และวันนี้เงินเข้าบัญชีแล้ว


นายเดชา กิตติวิทยานนท์ ซึ่งรับเป็นทนายความให้ฝั่งจำเลย คือ แพรวาและครอบครัว หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทย มองว่าหากปล่อยให้พ้นกำหนด 28 สิงหาคมนี้ จะต้องเข้าสู่การบังคับคดี ซึ่งต้องมีการสืบทรัพย์ โดยฝ่ายโจทก์คือผู้เสียหาย ต้องมีค่าใช้จ่าย และน่าจะใช้เวลาอีกนานหลายปี ขณะที่ฝั่งจำเลย หากนำทรัพย์มาขายทอดตลาดเพื่อเยียวยา ก็ต้องใช้เวลานานเช่นกัน และยังไม่มีหลักประกันว่าจะได้เงินมาชดใช้เยียวยาได้ครบเมื่อใด จึงคิดหาทางออกร่วมกับฝั่งจำเลย แต่วิธีประกาศขายที่ดินของมารดา น.ส.แพรวา ที่ประจวบคีรีขันธ์ ไม่มีผู้สนใจซื้อ จึงเลือกวิธีหยิบยืมเงินญาติจนครบตามจำนวน และรีบนำมาวางศาล เหตุผลสำคัญที่รับเป็นทนายความ คือ อยากให้ครอบครัวผู้สูญเสียได้รับการเยียวยาโดยเร็ว


นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่า คดีที่มีการต่อสู้กันยาวนานถึง 3 ศาล มักใช้ระยะเวลายาวนาน โดยเฉพาะคดีแพรวาที่มีผู้เสียหายถึง 27 ราย และมีการรวมสำนวนถึง 15 สำนวน ซึ่งหลังมีคำพิพากษาศาลฎีกา กระทรวงยุติธรรมเป็นตัวกลางในการติดตามความคืบหน้าการส่งคำบังคับคดีไปยังจำเลยทั้งสี่ เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้มีการชดใช้เยียวยาผู้เสียหายได้ทันเวลา ไม่ใช่ความล่าช้าของกระบวนการยุติธรรม

รองปลัดกระทรวงยุติธรรมยังมีคำแนะนำสำหรับคดีความในลักษณะนี้ หากมีประเด็นข้อพิพาทและต้องการต่อสู้คดี เนื่องจากส่วนใหญ่คู่ความทั้งสองฝ่ายต่างมองว่าตัวเองต้องชนะ สามารถมาติดต่อหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะมีผู้ให้คำปรึกษาและเสนอทางเลือกดีที่สุด หากเห็นว่าไม่มีทางชนะ ก็จะไม่แนะนำให้ยื้อเวลาต่อสู้กันถึง 3 ศาล.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน