กกต.จี้พรรคการเมืองเร่งจัดตั้งสาขาพรรค

ศูนย์ราชการ 8 ส.ค.- รองเลขาฯ กกต. แจงงบฯพรรคตามกฎหมายใหม่ไม่มีเงินทดรองจ่าย ที่พรรคการเมืองจะสำรองไปก่อนแล้วมาอ้างเป็นรายได้อื่นๆ  รอ กกต.ฟันธง  เผยแนวทางตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของพรรคการเมือง  เร่งจัดตั้งสาขาและตัวแทนประจำจังหวัด เพราะหากมีเลือกตั้งต้องทำไพรมารีโหวตแบบเต็ม  เตรียมจัดคนช่วยให้คำปรึกษาพรรคทั่วประเทศ 


ห้องประชุมออดิทรอเรียม เซนทรา ศูนย์ราชการ  นายแสวง  บุญมี   รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานอบรมโครงการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการเงินและบัญชีของพรรคการเมืองรุ่นที่ 2   ให้กับตัวแทนพรรคการเมืองและพนักงาน กกต.จังหวัดว่า พรรคการเมืองเป็นสถาบันหลักทางการเมืองของประเทศ กฎหมายกำหนดที่มาการใช้จ่ายเงินไว้ค่อนข้างทรัพย์ซ้อนกว่านิติบุคคลอื่น  การที่พรรคการเมืองจะเข้มแข็ง การดำเนินการกิจการจะต้องปฎิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย การเงินของพรรคจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ในหลักการของกฎหมายไม่ให้พรรคนำกำไรมาแบ่งปันกัน และกำหนดที่มารายได้ของพรรคไว้อย่างชัดเจน  7 ข้อ  

รองเลขาฯ กกต. กล่าวว่า ซึ่งแตกต่างจากกฎหมายของพรรคการเมืองในอดีต  ที่จะมีการเขียนให้มีรายได้อื่น ๆ ที่เป็นปัญหาในขณะนี้ และ กกต.ได้รับคำร้อง  ซึ่งก็ต้องรอดูว่าจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร  โดยมีการร้องว่าเงินทดรองจ่ายเข้าข่ายเป็นรายได้ของพรรคหรือไม่   กฎหมายในอดีตจะมีส่วนของรายได้อื่น ๆ ซึ่งปัญหาในขณะนั้น บางครั้งขาดสภาพคล่อง  พรรคโอนเงินค่าน้ำ ค่าไฟไม่ทัน หัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรค  ก็จะควักเงินส่วนตัวสำรองจ่ายไปก่อน  ซึ่งพรรคก็จะลงเป็นรายการเงินทดรองจ่าย  ซึ่งเงินประเภทนี้ไม่มีสัญญากู้และไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเหมือนเงินกู้  โดยในรายงานงบฯ ประจำปี  ที่พรรคแจ้งต่อ กกต.ของปี 58-61 ยังมีเงินนี้อยู่  แต่กฎหมายใหม่ไม่ได้เขียนเรื่องเงินอื่น ๆเอาไว้  จึงต้องรอการพิจารณาของ กกต. และการรายงานงบการเงินของพรรคการเมืองในรอบปีนี้ก่อน 


 นายแสวง ยังกล่าวอีกว่า การตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของพรรค กกต.จะดูองค์ประกอบ คือ 1.รายได้  2 .ผู้รับ คือพรรคการเมืองการรับเงินบริจาคพรรคได้ตรวจสอบหรือไม่  ว่าผู้ให้เป็นคนมีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนหรือไม่  และพรรครายงานตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่  3. ผู้ให้ กกต.จะดูว่าเป็นคนที่มีคุณสมบัติสามารถให้เงินบริจาคกับพรรคการเมืองได้ ไม่ใช่บุคคลเป็นบุคคลไม่ถือสัญชาติไทย หรือบริษัทที่ไม่จดทะเบียนในประเทศไทย  4.จำนวนเงินเป็นไปตามกฎหมายกำหนดหรือไม่  5. พฤติการณ์ในการให้ ข้าราชการการเมืองอย่างใช้ตำแหน่งหน้าที่ชักจูงเรี่ยราย ให้บุคคลหรือเอกชนมาบริจาคให้พรรคการเมือง การให้กับพรรคการเมืองต้องให้ด้วยความนิยมชมชอบ 

 6.เงินนั้นต้องชอบด้วยกฎหมาย มีแหล่งที่มาชัดเจน  ไม่ใช่เอาเงินที่ฟอกมาแล้วมาบริจาคกับพรรค  7.วิธีการใช้จ่ายของพรรค  เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เช่นการระดมทุน  ก่อนดำเนินการต้องแจ้งวัตถุประสงค์  วิธีการ ต่อ กกต.และเมื่อระดมทุนแล้วก็ต้องมีการออกหลักฐานให้กับผู้สนับสนุนและแจ้งต่อ กกต.ตามแบบฟอร์มที่ กกต กำหนด   8. ต้องไม่นำกำไรมาแบ่งปันกัน  และ 9.ความผิดและโทษซึ่งมีหลายมาตรา  สิ่งเหล่านี้ กกต.จะดูว่าพรรค ดำเนินการการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยพร้อมให้คำปรึกษา เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยดี  

นายแสวง ยังกล่าวว่า แต่สิ่งที่ กกต.ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ คือ 1.การไปตรวจสอบสถานะของผู้บริจาค  แม้เราจะดูตามคุณสมบัติเบื้องต้นตามกำหมายว่า เป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องในตลาดหลักทรัพย์ แต่ผลประกอบการกับขาดทุนทุกปี แต่ทำไมมีเงินมาบริจาคพรรคการเมือง   2.การจัดขายโต๊ะระดมทุนทำไมราคาถูกหรือแพง  เพราะในข้อเท็จจริงกฎหมายใช้คำว่าระดมทุนก็คือเป็นการขายเพื่อให้เงินมาเข้าพรรค   จึงอยู่ที่พรรคจะตั้งราคาโต๊ะเท่าไหร่ก็ได้  กกต.จึงไม่ได้ไปดูเรื่องการตั้งราคาโต๊ะ  จะเพียงว่าเมื่อเงินที่เข้าสู่พรรคแล้ว  นำไปใช้อย่างถูกต้องหรือไม่ เราตรวจทั้งหมด 9 อย่าง  มี 2 อย่างที่ กกต.ไม่มีอำนาจ  และยืนยันเราตรวจกับทุกพรรคตามรอบ  เว้นแต่มีกรณีจำเป็นและมีเรื่องร้องเรียนก็จะแจ้งให้พรรคชี้แจง 


 นายแสวง ได้กล่าวเตือนว่าแม้จะยังไม่มีการเลือกตั้ง  ก็อยากให้พรรคเมืองเร่งเรื่องการจัดตั้งสาขาพรรคและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด   รวมถึงการหาสมาชิกพรรค เพราะเลือกตั้งครั้งหน้าจะต้องทำไพรมารี่โหวตเต็มรูปแบบ  ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย  เพราะมีความซับซ้อนในการปฎิบัติ จึงควรรีบทำ  อย่างไรก็ตามในเรื่องการตั้งสาขาพรรค สำนักงาน กกต.จะส่งคนไปดูในพื้นที่ โดยใช่เงินกองทุนพรรคการเมืองจ้างคนไปอยู่จังหวัดละ 1 คน เพื่อให้คำปรึกษา  พร้อมกันนี้จะจัดทำคู่มือพรรคการเมือง และคู่มือการทำไพรมารี่โหวต เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินการ .-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าภายในเทศบาลตำบลรือเสาะ

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าจอดในอาคารจอดรถ เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเสร็จพิธีต้อนรับนายกเทศมนตรีคนใหม่ ทำให้ไฟไหม้รถเสียหายหลายคัน

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี