โซเซียลเป็นเหตุ ส.ส.หญิง ฟ้องกันดุเดือด

กรุงเทพฯ 7 ส.ค.-เรื่องของการใช้โซเชียลจนนำมาซึ่งการฟ้องร้องกัน เคยมีมาแล้วหลายกรณี วันนี้ ‘คลุกข่าวเล่าประเด็น’ จะตรวจสอบให้รอบด้านมากที่สุด ทั้งเรื่องของการฟ้องร้องซึ่งกันและกัน ทั้งเรื่องของความคิดเห็นของคนที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงคำแนะนำว่าเราจะใช้โซเชียลมีเดียอย่างไร เพื่อจะได้ไม่ต้องพบปัญหาทางข้อกฎหมาย


หลังจากที่ ส.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ภาพชายหนุ่มคนหนึ่ง ร่วมเฟรมกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และข้อความ กล่าวหาว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เชื่อมโยงกับเหตุระเบิดใน กทม. หลายจุด รวมถึงเหตุไม่สงบในภาคใต้และบุคคลที่อยู่ในภาพโยงว่าเป็นผู้ต้องสงสัยเป็นมือวางระเบิด


เมื่อทีมงานเข้าไปตรวจสอบวันนี้พบว่า facebook ปารีณา ไกรคุปต์ ได้แก้ไขโพสต์ของตนเองถึง 8 ครั้ง ลบเนื้อหาที่อาจมีความผิดตามกฎหมายบางส่วนออกไป และนำภาพของลูกชายตนเองมาใส่ไว้แทน ต่อมาเมื่อทราบข่าวว่าพรรคอนาคตใหม่จะทำการแจ้งความเอาผิด facebook ปารีณา ไกรคุปต์ ก็มีสเตตัสปรากฏขึ้นมาว่า “ได้ข่าวว่า พรรคอนาคตใหม่แจ้งความดิฉัน ดิฉันก็โอเคไปขึ้นศาล แต่หากดิฉันชนะดิฉันจะฟ้องกลับทั้งอาญา ทั้งแพ่งแน่นอนคะ” ซึ่งก็ได้รับ เสียงเชียร์จากเพื่อนสมาชิกใน facebook ของปารีณาเอง


เมื่อไปดูทางฝั่งอนาคตใหม่ ก็จะพบว่าเฟซบุ๊กของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์เกี่ยวกับเหตุผลที่ต้องฟ้อง ปารีณา ไกรคุปต์ จากนั้นวันนี้ น.ส.พรรณิการ์ เดินทางไปยังศาลอาญา เพื่อยื่นฟ้อง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ม.236 และ ม.238 จากกรณีการโพสต์เฟซบุ๊กที่มีเนื้อหาให้สังคมเข้าใจผิดว่า ตนและพรรคอนาคตใหม่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพมหานคร

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า มาในฐานะส่วนบุคคล  เพื่อต้องการให้สังคมเห็นว่า การเผยแพร่ข่าวปลอมและข่าวเท็จ ทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคม มีความผิดทางอาญา และที่สำคัญเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคม จึงไม่ต้องการให้มีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำซาก ไม่ต้องการให้ถึงขั้นติดคุกติดตารางหรือจ่ายค่าเสียหาย ยืนยันว่า พรรคอนาคตใหม่จะไม่ใช้การดำเนินคดีความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แม้ฝ่ายกฎหมายจะเห็นว่า กรณีของ น.ส.ปารีณา เข้าข่ายการตัดต่อภาพที่ทำให้เกิดความเสียหาย และว่าเหตุผลที่เพิ่งดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณา เป็นเพราะเรื่องนี้มีผลกระทบโดยตรงต่อสังคม และบุคคลที่ 3 นอกจากตนและพรรคอนาคตใหม่ ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา

ทางด้าน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.พรรณิการ์ วานิช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ฐานหมิ่นประมาท โดยนางสาวปารีณา กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาเเจ้งความเอาผิด น.ส.พรรณิการ์ กรณีที่มีการเเถลงข่าวใส่ร้ายตน โดยมีเนื้อหาในลักษณะกล่าวหาว่าตน “ทำให้สังคมเเตกเเยก” เบื้องต้นเเจ้งข้อหาหมิ่นประมาท ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะเข้าข่ายข้อหาใดอีกหรือไม่ ต้องรอคุยกับพนักงานสอบสวน

ส่วนกรณี น.ส.พรรณิการ์ ไปฟ้องร้องต่อศาลอาญาว่าตนเองมีการโพสต์ข้อความในลักษณะ Fake news ขอยืนยันว่าตนเองมั่นใจในพยานหลักฐาน เเละพร้อมที่จะไปขึ้นศาลเพื่อต่อสู้คดี เเละมั่นใจว่าจะชนะด้วย พร้อมระบุที่ผ่านมา ตนต่างหากที่เป็นผู้ถูกกระทำ ไม่ว่าจะเป็นคลิปปลอม รูปภาพปลอม คลิปปลอม เเละเฟซบุ๊กปลอม เเละยังถูกบูลลี่จากสังคมมาโดยตลอด ซึ่งไม่ใช่เเค่ตนเองเท่านั้น เเม้เเต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ถูก Fake news เช่นกัน โดยไม่ทราบว่าใครอยู่เบื้องหลัง ทั้งนี้ขอความเห็นใจจากสังคม เเละอยากจะขอให้ประชาชน เสพสื่อโซเชียลมีเดียอย่างมีวิจารณญาณ

ส่วนการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ตนโพสต์เเละเเก้ไขข้อความตามปกติ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรคฯ เเละยังมีคนที่เห็นด้วยกับตนเป็นจำนวนมาก ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตนเป็นผู้โพสต์จริง เเละไม่กลัวการถูกฟ้องกลับ อย่างไรก็ตาม วันนี้ น.ส.ปารีณา นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างเดินทางมาที่ สน.ลุมพินี เนื่องจากเกิดความสับสน เดินทางไปที่ สน.ทองหล่อ เพราะมีที่พักอาศัยอยู่ใน 2 พื้นที่ จากเดิมที่นัดหมายสื่อมวลชนไว้ในเวลา 10.00 น. จึงทำให้เดินทางมาล่าช้ากว่ากำหนด พร้อมกล่าวขอโทษสื่อมวลชนที่ทำให้ต้องรอนาน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• “พรรณิการ์” ฟ้องหมิ่นประมาท “ปารีณา”

• “ปารีณา”ชิงฟ้องก่อน”ช่อ พรรณิการ์”ฐานหมิ่นประมาท!!

 ศึก 2 ส.ส.สาว “พรรณิการ์-ปารีณา” แจ้งเอาผิดอีกฝ่ายฐานหมิ่นประมาท

 ช่อ พรรณิการ์ตั้งกระทู้ถามสดปารีณาให้ข่าวโยงอนาคตใหม่เอี่ยวเหตุระเบิด


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]