นายกฯ ย้ำการใช้ กม.ในพื้นที่ต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน

ยะลา 7 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีเตรียมยกระดับยะลาเป็นเมืองทุเรียน แนะชาวใต้ปลูกไม้มีค่าแทนยางพาราที่ราคาตกต่ำ  เผย กินข้าวไม่ลง ถูกนินทา แต่จะเอาความดีชนะทุกอย่าง เน้นย้ำการใช้กฎหมายในพื้นที่ จะต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ต้องเป็นไปตามหลักสากล

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวกับประชาชน ภายหลังเปิดศูนย์ราชการจังหวัดแดนภาคใต้ ว่า ดีใจที่ได้กลับมาเยี่ยมครอบครัวเดียวกัน  และได้เห็นถึงความก้าวหน้างานต่างๆที่พัฒนาในพื้นที่   รัฐบาลมีแผนงานที่จะดำเนินการในหลายเรื่อง ที่คลอบคลุมทุกด้าน หากสามารถทำได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี และรัฐมนตรีใหม่ก็จะต้องสานต่องานเดิม เพื่อให้เกิดความสงบในพื้นที่ 

“ทุกคนเป็นคนไทย จะแตกแยกไม่ได้ แม้จะต่างศาสนากัน เพราะที่นี่คือประเทศไทย และจ.ยะลา เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียง ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ ความสวยงามของบ้านเมือง และการจัดการผังเมืองที่ดี  รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการเมืองต้นแบบจังหวัดแดนภาคใต้ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ที่ผ่านมามีการส่งเสริมภาคการเกษตร ทั้งการผลิต การตลาด และการส่งออก โดยมีการตั้งโรงงานอุตสาหกรรม และล้งทุเรียนในพื้นที่ ส่งออกไปขายยังต่างประเทศ ทราบว่าในพื้นที่ภาคใต้มีการปลูกทุเรียนมาก และเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อ จึกอยากผลักดันให้ จ.ยะลา เป็นศูนย์กลางทุเรียนในพื้นที่” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงปัญหาราคายางพาราตกต่ำว่า เกิดจากราคากลไกลตลาดโลก ที่ขณะนี้มีปัญหาสงครามการค้า ราคาน้ำมันร่วง จึงต้องการให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ พร้อมปรับตัว ไม่ได้ปลูกอย่างพาราอย่างเดียว  เช่น ปลูกไม้มีค่า และพีชสมุนไพร ที่มีความต้องการของตลาดสร้างมูลค่าได้ ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้ง เกิดจากฝนไม่ตกตามฤดูกาล และตกเหนือเขื่อนกักเก็บน้ำ 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า สำหรับนโยบายเร่งด่วนแก้ปัญหาภาคใต้ รัฐบาลเน้นงานด้านความมั่นคง ดูแลความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินประชาชน โดยต้องได้รับความร่วมมือต้องจากทุกคน เพราะเป็นแผ่นดินของเราจะแบ่งแยกไม่ได้ เน้นย้ำการใช้กฎหมายในพื้นที่ จะต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ต้องเป็นไปตามหลักสากล 

“ปัญหาสุขภาพก็เป็นเรื่องสำคัญ ทุกคนต้องดูแลตัวเอง โดยเฉพาะการกินอาหาร และช่วงที่ผ่านมา ผมกินข้าวได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เพราะมีคนนินทา แต่ผมก็หวังจะเอาชนะด้วยความดี และหวังให้ประชาชนได้เข้าใจ และอย่าคิดถึงผม เมื่อไม่พบกันทางหน้าจอทีวีเหมือนที่ผ่านมา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังให้ระมัดระวังเรื่องสมุนไพร ที่เป็นยาเสพติดบางชนิด อย่างภาคใต้มีใบกระท่อม หากทำแล้วไม่ผิดดกฎหมายก็ไม่ขัดข้อง แต่ก็ต้องดูข้อกฎหมายอย่างค่อยเป็นค่อยไป  ยอมรับว่าติดตามสถานการณ์ภาคใต้ตลอด ทั้งทางข้อมูลจากราชการ โซเซียลมีเดีย หรือจากประชาชนโดยตรง

“ระหว่างนี้จะมีกลไกพิเศษของหน่วยงาน เพื่อเข้าไปแก้ปัญหา ประชาชนอาจจะไม่สะดวกขอให้เข้าใจด้วย  และฝากความรัก ความห่วงใยให้กับประชาชนในพื้นที่” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทักทายกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับด้วยภาษามลายู ที่แปลว่า ยินดีต้อนรับ สวัสดีตอนเช้า กินข้าวด้วยกันนะ     . – สำนักข่าวไทย