คนร้ายลอบวางระเบิดตู้ ATM 3 จุดใน จ.ปัตตานี

ปัตตานี 4 ส.ค.-คนร้ายไม่ทราบจำนวนกระจายกำลังลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ 3 อำเภอของ จ.ปัตตานี ทำให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหายอย่างหนัก คาดเป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วมที่ต้องแสดงศักยภาพในพื้นที่


เมื่อเวลา 24.00 น.ที่ผ่านมา มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนกระจายกำลังลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดปัตตานี จุดที่ 1 ตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม หน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนี อ.ยะรัง จุดที่ 2 บริเวณตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม หน้าโรงเรียนอาซิซสถาน อ.โคกโพธิ์ และจุดที่ 3 ตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม หน้าโรงเรียนศาสนศึกษา เหตุเกิด อ.สายบุรี ทำให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ล่าสุดเช้าวันนี้ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณตู้เอทีเอ็มหน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พบอุปกรณ์ประกอบระเบิด ทั้งแบตเตอรี่ แผงวงจรประกอบระเบิด และสายไฟ กระจัดกระจายไปทั่ว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


จากการสอบสวนทราบว่าเหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีคนร้าย 5 คน เดินเข้ามาที่ป้อมยาม มีนายฟารุต สาเฮาะ ยามรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยฟาฏอนีกำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ มีคนร้ายประมาณ 4-5 คน สวมชุดดำปิดหน้าตาเข้ามา เคาะประตูและใช้ปืนจี้และจับมัดมือไขว้หลัง คนร้ายเอาเท้าเหยียบหลังเพื่อไม่ให้ขยับตัว จากนั้นคนร้ายได้รื้อค้นภายในห้องและหยิบอาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก ก่อนคนร้ายจะเดินไปที่ตู้เอทีเอ็ม นำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิค น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม ก่อนคนร้ายจะต่อชนวนระเบิดด้วยการลากสาย จากนั้นคนร้ายจึงได้ล่าถอย และกดฉนวนระเบิดขึ้น ทำให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหายดังกล่าว

ทั้งนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานีเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุคาดเป็นคนร้ายชุดเดียวกัน โดยพฤติกรรมของคนร้ายใช้รูปแบบการก่อเหตุคล้ายคลึงกัน และมีการนำระเบิดแสวงเครื่องชนิดเดียวกันเข้าก่อเหตุ คาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วมที่ต้องแสดงศักยภาพในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย