ไฟไหม้บ้าน 3 หลังที่สงขลา

สงขลา 3 ส.ค.- เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน 3 หลัง บ้านเลขที่ 13, 15, และ 17 ซึ่งอยู่ติดกันในซอย 18 ชุมชนทุ่งรี เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน


เมื่อ 02.30 น.ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน 3 หลัง เลขที่ 13, 15, และ 17 ซึ่งอยู่ติดกันในซอย 18 ชุมชนทุ่งรี เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้มุงสังกะสี 2 หลัง และบ้านปูนสองชั้นอีก 1 หลัง ถูกเพลิงโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองคอหงส์ต้องระดมรถดับเพลิงไปฉีดน้ำดับไฟ ส่วนหน่วยกู้ชีพมัชฌิมาพยายามเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่บ้านเสียหายทั้ง 3 หลัง รวมทั้งทรัพย์สินถูกไฟไหม้ไปด้วย 

เหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บ 1 คน คือ นางแหม๊ะ หญิงชรา อายุ 65 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 15 ถูกไฟไหม้ร่างกายกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ อาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลาครินทร์ โดยขณะเกิดเหตุนางแหม๊ะได้วิ่งไปช่วยเหลือสุนัข 7 ตัว และแมวอีก 5 ตัวที่เลี้ยงไว้ในบ้าน จนรอดออกมาได้ทั้งหมด แต่ตัวเองเกือบเอาชีวิตไม่รอด


นอกจากนี้ ยังมีรถเก๋งอีก 1 คัน รถจักรยานยนต์ 8 คัน ที่จอดอยู่ภายในบ้านเลขที่ 17 ได้รับความเสียหาย รวมถึงสุนัขอีก 2 ตัว ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่อยู่ อีกทั้งยังเป็นบ้านต้นเพลิงโดยไฟได้ลุกไหม้ขึ้นจากปลั๊กเสียบน้ำบาดาลที่อยู่ข้างบ้าน

น.ส.บี เจ้าของบ้านเลขที่ 13 ซึ่งเปิดเป็นร้านซักรีด เล่าว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนอนหลับอยู่ก็ได้กลิ่นควันไฟเข้ามาในบ้านพร้อมกับกลุ่มควัน จึงออกมาดูก็พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ขึ้นจากบ้านเลขที่ 17 จึงได้รีบไปเรียกยายแหม๊ะ ซึ่งพักอยู่คนเดียวในบ้านที่อยู่ติดกันและพากันวิ่งหนีตายออกมาจากบ้าน โดยแทบไม่ได้หยิบฉวยอะไรติดมือออกมาและเห็นเพลิงลุกไหม้บ้านจนเสียหายไปต่อหน้าต่อตา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย