สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 ส.ค.-นายกฯ ยันไม่ใช้กฎหมายพิเศษควบคุมสถานการณ์ระเบิดป่วนกรุง ใช้กฎหมายปกติ แต่คุมเข้มเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัย ทั้งสถานที่ราชการ สถานที่เชิงสัญลักษณ์ สถานทูต สถานที่การประชุมต่างๆ ระบุ กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการให้กระทบภาพลักษณ์ประเทศ ต้องไม่ให้สมหวัง คนไม่ดีต้องไม่ให้มีที่ยืน ระบุอาจเชื่อมโยงกลุ่มเก่า ยังไม่ตัดประเด็นใดออก ขอเวลา เจ้าหน้าที่ทำงาน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ามีผู้บาดเจ็บไม่มาก และไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น แต่สำหรับตนการมีผู้บาดเจ็บเพียงคนเดียวก็เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ จึงมอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ปัญหาความมั่นคงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนทุกคน โดยเฉพาะปัจจุบันมีช่องทางโซเชียลมีเดีย ที่เป็นช่องทางสื่อสารระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ใช้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ในการติดตามผู้ต้องสงสัย และต้องการภาพจากประชาชน นอกจากนี้หากประชาชนพบสิ่งผิดปกติ ก็สามารถถ่ายภาพเป็นข้อมูลเก็บไว้ เพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้สั่งการไปยังรองนายกรัฐมนนตรี ด้านความมั่นคง และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการจนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ 2 คน ที่จังหวัดชุมพร ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และแสดงให้เห็นถึง การทำงานอย่างเต็มที่ ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายรอผลการสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการ และขออย่าเพิ่งด่วนสรุปเหตุการณ์ทั้งหมด แต่อยากให้ทุกคนได้คิดว่า ทำไมตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ลักษณะนี้ แทบไม่เกิดขึ้น แต่วันนี้เมื่อมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ กลับมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยมีตัวอย่างเกิดขึ้นแล้วหรือไม่ จึงต้องไปสอบสวนและทบทวนว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ซึ่งในอดีตมีหลายที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเก่า ๆ แต่ ยังไม่มีการตัดประเด็นใดออกไป และมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำลายประเทศ ใครที่ทำถือว่าเป็นกลุ่มที่ใช้ไม่ได้ และต้องไม่มีที่ยืน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากยังมีคนไม่ดีอยู่ เหตุก็พร้อมเกิดขึ้นเช่นเดียวกับต่างประเทศ ดังนั้น ประชาชน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ต้องช่วยกันสร้างความเข้มแข็ง พร้อมรับกับสิ่งเหล่านี้ ยืนยันว่าการติดตามในทุกคดีมีความก้าวหน้าตามลำดับ แต่ขอสื่อมวลชนอย่าไปขยายความ หรือสอบถามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้กระทบกับกระบวนการทำงาน ให้เจ้าหน้าที่ ทำงานอย่างระมัดระวังมากที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ แม้จะมีใครไปพูดจาอะไรก็ตาม และทุกประเทศให้เกียรติ อยากให้รัฐบาลเดินหน้าทำงานต่อไป จึงขอให้ทุกคนทำให้ประเทศเดินหน้าทำงานตามศักยภาพ และในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่เกิดขึ้นให้น้ำหนักทางการเมืองหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทิ้งประเด็นใด แต่สรุปว่ามีคนไม่ดีกระทำการ แต่จะด้วยเหตุผลใด ต้องรอผลการสอบสวน ว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มใดและจะได้ทราบข้อเท็จจริง ขอทุกคนอย่าใจร้อน เจ้าหน้าที่เร่งทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนเหตุแต่ละจุดจะเชื่อมโยงกันหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องไปดูช่วงเวลา และกลุ่มที่เกี่ยวข้อง และไม่น่าจะใช่การขยายพื้นที่ก่อเหตุมาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้
ต่อข้อถามว่า มองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่า ที่นายกฯ จะเดินทางมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีตำรวจไม่ยอมรับ หรือไม่รักนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะตนมาดูแลตำรวจ และดูแลประชาชนผ่านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนเป็นพี่เป็นน้องกัน และทุกคนต้องไว้ใจซึ่งกันและกัน และมองว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ทุกคนดีใจที่ได้รัฐบาลใหม่ การแถลงนโยบายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกคนได้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งเห็นได้ว่า เมื่อมีสถานการณ์เกิดขึ้นทุกคนพร้อมและไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นมาก หากเจ้าหน้าที่ไม่พร้อม คงมีความรุนแรงเกิดขึ้นมากกว่านี้
“ไม่ต้องใช้กฎหมายพิเศษมาควบคุมสถานการณ์ ยังใช้กฎหมายและกระบวนการปกติ และแน่นอนว่าต้องคุมเข้มและเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัย ทั้งสถานที่ราชการ สถานที่เชิงสัญลักษณ์ สถานทูต สถานที่การประชุมต่างๆ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว และว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการให้กระทบภาพลักษณ์ประเทศ แต่ต้องไม่ให้กลุ่มดังกล่าวสมหวัง
เมื่อถามว่ามั่นใจจะควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทำอย่างเต็มที่และขอให้ทุกคนช่วยกันอีกทางหนึ่ง ส่วนที่ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาระบุว่าเป็นฝีมือกลุ่มเก่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กลุ่มที่เคยก่อเหตุมาก่อนหน้านี้ ก็อาจมีการหลบหนีไปบ้าง แต่ก็ตรวจสอบพบความเชื่อมโยงอยู่บ้างและที่จำคุกอยู่บ้างก็มี .-สำนักข่าวไทย