นายกฯ ยันไม่ใช้กฎหมายพิเศษ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 ส.ค.-นายกฯ ยันไม่ใช้กฎหมายพิเศษควบคุมสถานการณ์ระเบิดป่วนกรุง ใช้กฎหมายปกติ แต่คุมเข้มเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัย ทั้งสถานที่ราชการ สถานที่เชิงสัญลักษณ์ สถานทูต สถานที่การประชุมต่างๆ ระบุ กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการให้กระทบภาพลักษณ์ประเทศ ต้องไม่ให้สมหวัง คนไม่ดีต้องไม่ให้มีที่ยืน ระบุอาจเชื่อมโยงกลุ่มเก่า ยังไม่ตัดประเด็นใดออก ขอเวลา เจ้าหน้าที่ทำงาน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ามีผู้บาดเจ็บไม่มาก และไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น แต่สำหรับตนการมีผู้บาดเจ็บเพียงคนเดียวก็เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ จึงมอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ปัญหาความมั่นคงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนทุกคน โดยเฉพาะปัจจุบันมีช่องทางโซเชียลมีเดีย ที่เป็นช่องทางสื่อสารระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ใช้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ในการติดตามผู้ต้องสงสัย และต้องการภาพจากประชาชน นอกจากนี้หากประชาชนพบสิ่งผิดปกติ ก็สามารถถ่ายภาพเป็นข้อมูลเก็บไว้ เพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ได้ 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้สั่งการไปยังรองนายกรัฐมนนตรี ด้านความมั่นคง และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการจนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ 2 คน ที่จังหวัดชุมพร ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และแสดงให้เห็นถึง การทำงานอย่างเต็มที่ ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า  ขอให้ทุกฝ่ายรอผลการสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการ และขออย่าเพิ่งด่วนสรุปเหตุการณ์ทั้งหมด แต่อยากให้ทุกคนได้คิดว่า ทำไมตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ลักษณะนี้ แทบไม่เกิดขึ้น แต่วันนี้เมื่อมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ กลับมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยมีตัวอย่างเกิดขึ้นแล้วหรือไม่ จึงต้องไปสอบสวนและทบทวนว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ซึ่งในอดีตมีหลายที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเก่า ๆ แต่ ยังไม่มีการตัดประเด็นใดออกไป และมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำลายประเทศ ใครที่ทำถือว่าเป็นกลุ่มที่ใช้ไม่ได้ และต้องไม่มีที่ยืน 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากยังมีคนไม่ดีอยู่ เหตุก็พร้อมเกิดขึ้นเช่นเดียวกับต่างประเทศ ดังนั้น ประชาชน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ต้องช่วยกันสร้างความเข้มแข็ง พร้อมรับกับสิ่งเหล่านี้ ยืนยันว่าการติดตามในทุกคดีมีความก้าวหน้าตามลำดับ แต่ขอสื่อมวลชนอย่าไปขยายความ หรือสอบถามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้กระทบกับกระบวนการทำงาน  ให้เจ้าหน้าที่ ทำงานอย่างระมัดระวังมากที่สุด 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ แม้จะมีใครไปพูดจาอะไรก็ตาม  และทุกประเทศให้เกียรติ อยากให้รัฐบาลเดินหน้าทำงานต่อไป จึงขอให้ทุกคนทำให้ประเทศเดินหน้าทำงานตามศักยภาพ และในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ด้วย 

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่เกิดขึ้นให้น้ำหนักทางการเมืองหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทิ้งประเด็นใด แต่สรุปว่ามีคนไม่ดีกระทำการ แต่จะด้วยเหตุผลใด ต้องรอผลการสอบสวน ว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มใดและจะได้ทราบข้อเท็จจริง ขอทุกคนอย่าใจร้อน เจ้าหน้าที่เร่งทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนเหตุแต่ละจุดจะเชื่อมโยงกันหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องไปดูช่วงเวลา และกลุ่มที่เกี่ยวข้อง และไม่น่าจะใช่การขยายพื้นที่ก่อเหตุมาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้  

ต่อข้อถามว่า มองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่า ที่นายกฯ จะเดินทางมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีตำรวจไม่ยอมรับ หรือไม่รักนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะตนมาดูแลตำรวจ และดูแลประชาชนผ่านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนเป็นพี่เป็นน้องกัน และทุกคนต้องไว้ใจซึ่งกันและกัน และมองว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ทุกคนดีใจที่ได้รัฐบาลใหม่ การแถลงนโยบายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกคนได้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งเห็นได้ว่า เมื่อมีสถานการณ์เกิดขึ้นทุกคนพร้อมและไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นมาก หากเจ้าหน้าที่ไม่พร้อม คงมีความรุนแรงเกิดขึ้นมากกว่านี้ 

“ไม่ต้องใช้กฎหมายพิเศษมาควบคุมสถานการณ์  ยังใช้กฎหมายและกระบวนการปกติ  และแน่นอนว่าต้องคุมเข้มและเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัย ทั้งสถานที่ราชการ สถานที่เชิงสัญลักษณ์ สถานทูต สถานที่การประชุมต่างๆ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว และว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการให้กระทบภาพลักษณ์ประเทศ แต่ต้องไม่ให้กลุ่มดังกล่าวสมหวัง

เมื่อถามว่ามั่นใจจะควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทำอย่างเต็มที่และขอให้ทุกคนช่วยกันอีกทางหนึ่ง ส่วนที่ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาระบุว่าเป็นฝีมือกลุ่มเก่านั้น  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กลุ่มที่เคยก่อเหตุมาก่อนหน้านี้ ก็อาจมีการหลบหนีไปบ้าง แต่ก็ตรวจสอบพบความเชื่อมโยงอยู่บ้างและที่จำคุกอยู่บ้างก็มี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 18 พ.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ […]

ระทึก! ตำรวจไล่ล่า-ยิงยางสกัดกระบะซิ่ง พบไอซ์ซุกในรถ

17 พ.ค. – ระทึก! ตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่ากระบะซิ่งหนีชนดะ ต้องยิงยางสกัดจึงสิ้นฤทธิ์ ตรวจค้นพบไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถ เพจเฟสบุ๊กชื่อ วัชรพล สายไหม เพิ่มสิน สุขาภิบาล 5 โพสต์ข้อความระบุว่า “เลี่ยงทางถนนเทพารักษ์ วัชรพล” พร้อมกับคลิปเหตุการณ์ที่มีรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเร่งเครื่องจนควันดำเต็มถนน เหมือนพยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในคลิปจะเห็นว่าด้านหน้ารถกระบะคันดังกล่าวมีรถกระบะจอดขวางทางอยู่ 1 คัน และด้านซ้ายของคลิปจะเห็นรถจักรยานยนต์ตำรวจสายตรวจล้มอยู่ อีกทั้งยังได้ยิงเสียงปืน และในจังหวะที่รถกระบะกำลังถอยเพื่อกลับลำหนี มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งเข้ามาชนท้ายอย่างจัง เพื่อปิดทางหนีของรถกระบะคันดังกล่าว และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุบกระจกรถกระบะ พร้อมนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากรถได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถกระบะอีซูซุโหลดเตี้ยแต่งซิ่ง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีรอยเฉี่ยวชนรอบคัน ล้อด้านซ้ายแตกทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และยางล้อหน้าด้านซ้ายมีเศษหัวกระสุนติดอยู่ ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายชัยชนะ อายุ 41 ปี ถูกจับกุมพร้อมของกลางไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถกระบะ ด้านพลเมืองที่ช่วยตำรวจสกัดคนร้ายไม่ให้หลบหนี คือนายประหยัด เจ้าของรถกระบะวีโก้สีดำ ได้รับความเสียหายบริเวณตัวรถด้านซ้ายจนถึงท้ายรถ ซึ่งจอดขวางหน้ารถกระบะคันก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนเองขับรถอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 เห็นรถสายตรวจจักรยานยนต์ขี่ไล่รถกระบะคันเกิดเหตุมาจนมาถึงซอยเทพรักษ์ 23 รถคนร้ายเฉี่ยวชนรถของตนเองเลยขับตามมา ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาไล่จับอะไรกัน แต่ได้ยินสายตรวจบอกให้ช่วยไล่ จึงช่วยเพราะก็ถูกชนแล้วหนีเหมือนกัน จนมาช่วยสกัดได้ตรงนี้ […]

ตัดทุเรียนโชว์

นายกฯ ลงพื้นที่เมืองจันท์ ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง

จันทบุรี 17 พ.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง ไม่ได้มาตรฐาน ขอช่วยแก้ลดเวลาสินค้าตกค้าง-แก้ปมแรงงาน ด้าน สส.ประชาชน เสนอปัญหา ด้านนายกฯ ลั่นรัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกเอกสารส่งออก-ลดเวลาตรวจหน้าด่าน น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวจิราพร​ สินธุไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์​ นายอิทธิ​ ศิริลัทยากร และนายอัครา​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีช่วย​ว่าการ​กระทรวง​เกษตรและสหกรณ์​ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ณ สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังเข้าร่วมชมการไลฟ์ขายทุเรียนของเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer นอกจากนี้ยังมี สส.ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งเป็น สส. จากพรรคประชาชน เดินทางมารอนายกรัฐมนตรี เพื่อจะร่วมสะท้อนปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยมีนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี […]

“ชี้จุด-ทำแผน” ฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพหมกสวนปาล์ม

ตรัง 17 พ.ค.- คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีฆ่าเผานั่งยาง ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทำแผนฯ ที่สวนปาล์มน้ำมัน หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันตามรวบยกทีม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันสามารถรวบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ครบทั้ง 4 คนในคดีฆ่าฝังและเผานั่งยาง รวม 4 ศพ ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนฯ ที่สวนปลามน้ำมัน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 170 ไร่ ในตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ประกอบด้วย นายศุภกรณ์ หรือบิน หัวหน้าแก๊ง นายจรณชัย หรือแต้ม นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค และนายรพีพันธ์ หรือเถือก ทั้งหมดถูกตั้งหลายข้อหา อาทิ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฯลฯ”โดย มี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ […]