“น้องเมย์ รัชนก” คว้าชัยรอบ 2 ดวล “น้องแน็ต ณิชชาอร” แบดฯ ไทยแลนด์ฯ

กทม. 31 ก.ค. – “น้องเมย์ รัชนก” มือวางอันดับ 6 ศึกแบดมินตันรายการ “โตโยต้า ไทยแลนด์โอเพ่น 2019” ชนะนักตบจากเยอรมนีขาดลอย 2-0 เกม ผ่านเข้าสู่รอบสองพบกับ “น้องแน็ต ณิชชาอร”


การแข่งขันแบดมินตันในศึก “โตโยต้า ไทยแลนด์โอเพ่น 2019” ทัวร์นาเมนต์เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชิงเงินรางวัลรวม 350,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 11,550,000 บาท ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในรายการเก็บคะแนนสะสมโลกไปโตเกียวเกมส์ 2020 เมื่อวันพุธที่ 31 ก.ค.62 เป็นการลงสนามแข่งขันวันที่ 2 ในรอบเมนดรอว์รอบแรก



ประเภทหญิงเดี่ยว รอบเมนดรอว์รอบแรก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือวางอันดับ 6 ของรายการ มืออันดับ 7 ของโลก พบกับ ลี วอนนี่ มืออันดับ 41 ของโลกจากเยอรมนี ไปได้ขาดลอย 2-0 เกม 21-1-, 21-8 ใช้เวลาแข่งขัน 32 นาที “เมย์” รัชนก ผ่านเข้าสู่รอบสองไปพบกับ “แน็ต” ณิชชาอร จินดาพล มืออันดับ 19 ของโลก พลิกสถานการณ์หลังจากที่พลาดท่าพ่ายไปก่อนในเกมแรกมาเร่งเครื่องทำคะแนนแซงชนะรุ่นน้องร่วมทีม “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ มืออันดับ 21 ของโลก ไปได้หวุดหวิด 2-1 เกม 13-21, 21-12, 21-12 ใช้เวลาแข่งขัน 60 นาที 

“เมย์” ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 88 ของโลก แพ้ โซเนีย เชี๊ยะ มืออันดับ 35 ของโลกจากมาเลเซีย ไป 0-2 เกม 21-11 ,14-21,19-21 ใช้เวลาแข่งขัน 61 นาที , “จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ มืออันดับ 67 ของโลก แพ้ ไซน่า เนวาล มือวางอันดับ 7 ของรายการ มืออันดับ 8 ของโลกจากอินเดีย 0-2 เกม 17-21,19-21 ใช้เวลาแข่งขัน 39 นาที 

ประเภทชายเดี่ยวรอบเมนดรอว์รอบแรก (32คน) “โอ๊ต” สิทธิคมป์ ธรรมศิลป์ มืออันดับ 26 ของโลก โชว์ฟอร์มเก่งไล่ตบเอาชนะ มาร์ค คาร์โจว มืออันดับ 33 ของโลกจากเนเธอร์แลนด์ ไปได้ขาดลอย 2-0 เกม 21-15, 21-18 ใช้เวลาแข่งชัน 45 นาที “โอ๊ต” สิทธิคมป์ ผ่านเข้าสู่รอบสองไปพบกับ คันตะ ทัตสึนิยาม่า มืออันดับ 11 ของโลกจากญี่ปุ่น ที่เอาชนะ ซูราฟ เวอร์มา มืออันดับ 44 ของโลกจากอินเดีย 2-1 เกม 23-21, 19-21, 21-5 

“เพชร” โฆษิต เพชรประดับ มืออันดับ 32 ของโลก เร่งเครื่องทำคะแนนเอาชนะ ลี ชุ๊คยิว มืออันดับ 28 ของโลกจากฮ่องกง ไปได้ขาดลอย 2-0 เกม 21-19, 21-15 ใช้เวลาแข่งชัน 49 นาที “เพชร” โฆษิต ผ่านเข้าสู่รอบสองไปพบกับ คีดัมบี้ สีกาน มือวางอันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 10 ของโลกจากอินเดีย ที่เอาชนะ เหริน เปงโบ มืออันดับ 96 ของโลกจากจีน มาได้  2-1 เกม 21-13, 17-21, 21-19

“กัน” กันตภณ หวังเจริญ มืออันดับ 15 ของโลก พลาดท่าแผ่วปลายพ่ายให้กับ ไซน์ ปรานีต มืออันดับ 29 ของโลกจากอินเดีย ไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 21-17,17-21,15-21 ใช้เวลาแข่งขัน 71 นาที, “ไบร์ท” สัพพัญญู อวิหิงสานนท์ มืออันดับ 36 ของโลก พ่ายกับจอมเก๋า หลิน ตัน มืออันดับ 14 ของโลกจากจีน ไปแบบไม่จบแมทช์ โดยในเกมแรกทาง หลิน ตัน เอาชนะไปได้ 21-17 จากนั้นในเกมที่สอง หลิน ตัน ทำคะแนนออกนำ 11-8 “ไบร์ท” สัพพัญญู มีอาการบาดเจ็บนิ้วซ้นในจังหวะพุ่งรับลูกจึงต้องขอถอนตัวจากการแข่งขันให้ หลิน ตัน ชนะผ่าน

ประเภทชายคู่รอบเมนดรอว์รอบแรก(32 คู่) “อาท” บดินทร์ อิสสระ กับ “เอ” มณีพงศ์ จงจิตร คู่มืออันดับ 38 ของโลก พลาดท่าแผ่วปลายพ่ายให้กับ หวง ไคเซียง กับ หลิว เฉิน คู่มืออันดับ 161 ของโลกจากจีนไ ปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 15-21 , 21-18 ,20-22 ใช้เวลาแข่งชัน 67 นาที 

ประเภทหญิงคู่รอบเมนดรอว์รอบแรก (32คู่) “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด กับ “แอนนา” นันทกานต์ เอี่ยมสอาด คู่มืออันดับ 125 ของโลก แพ้ ซือ หย่าฉิง กับ หวู หลินฟาง คู่มืออันดับ 37 ของโลกจากไต้หวัน 0-2 เกม 14-21 ,16-21 ใช้เวลาแข่งขัน 26 นาที , “เจน” ขวัญชนก สุดใจประภารัตน์ กับ “นั่ง” ชาสิณี โกรีภาพ คู่มืออันดับ 98 ของโลก แพ้ เดลฟีน เดอร์รู กับ ลีอาร์ พาเลโม่ คู่มืออันดับ 34 ของโลกจากฝรั่งเศส 0-2 เกม 16-21 ,16-21 ใช้เวลาแข่งขัน 42 นาที 

ประเภทคู่ผสมรอบเมนดรอว์รอบแรก (32 คู่) “ต้นนํ้า” นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร กับ “เอ็มเอ็ม” สาวิตรี อมิตรพ่าย คู่มืออันดับ 15 ของโลก แพ้ อัลเฟียน พราเซ็ทโต กับ มาเชลล่า อิสลามมี่ คู่มืออันดับ 27 ของโลกจากอินโดนีเซีย 0-2 เกม 16-21 , 16-21 ใช้เวลาแข่งขัน 35 นาที  

สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆที่น่าสนใจ ประเภทหญิงเดี่ยวรอบเมนดรอว์รอบแรก(32คน) เฉิน ยู่เฟย มือวางอันดับ 1 ของรายการ มืออันดับ 4 ของโลกจากจีน ชนะ อัน เซยอง มืออันดับ 33 ของโลกจากเกาหลีใต้ 21-12, 21-17,เฉิน เสี่ยวซิน มืออันดับ 23 ของโลก ชนะ ไซ ราว ชุคก้า มืออันดับ 101 ของโลกจากอินเดีย 21-17, 21-7, คิม กาอึน มืออันดับ 29 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ ยูเลีย โยเซฟิน ซูซานโต มืออันดับ 66 ของโลกจากอินโดนีเซีย 23-21, 21-13,หาย ยู่ มืออันดับ 14 ของโลกจากจีน ชนะ เหงียน ลินทุย มืออันดับ 43 ของโลกจากเวียดนาม 21-17 , 21-14, เหอ บิงเจียว มือวางอันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 6 ของโลกจากจีน ชนะ หลี่ เสี่ยวเร่ย มืออันดับ 22 ของโลกจากจีน 22-20, 21-14,ฟิเทียนี่ ฟิเทียนี่ มือวางอันดับ 29 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ ยิป ปุยยิน มืออันดับ 37 ของโลกจากฮ่องกง 13-21, 21-13, 24-22,ซายากะ ทากาฮาชิ มืออันดับ 18 ของโลกจากญี่ปุ่น ชนะ รูเชลลี่ ฮาเทียวาน มืออันดับ 38 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-8, 21-10,

ประเภทคู่ผสมรอบเมนดรอว์รอบแรก(32คู่) ซาวิไซราท ซานกิเร็ดดี้ กับ อาชวีนี่ พอนนัพพา คู่มืออันดับ 23 ของโลกจากอินเดีย ชนะ ชาง เป็งสุน กับ โก๊ะ หลิวหยิง คู่มือวางอันดับ 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 5 ของโลกจากมาเลเซีย 21-18, 18-21, 21-17 , ปรานาฟ โชปรา กับ ซิกกิ เร้ดดี้ คู่มืออันดับ 22 ของโลกจากอินเดีย ชนะ โคเฮอิ กอนโดะ กับ อยาเนะ คูริฮาระ คู่มืออันดับ 30 ของโลกจากญี่ปุ่น 21-16, 21-13,ยูกิ คาเนโกะ กับ มิซากิ มัตซูโตโม คู่มืออันดับ 35 ของโลกจากญี่ปุ่น ชนะ แมททีอัส คริสเตียนเซน กับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ย์ คู่มืออันดับ 134 ของโลกจากเดนมาร์ก 13-21, 21-19 ,21-13, โรเดียน อลิมอฟ กับ อลิน่า เดเวลโตว่า คู่มืออันดับ 29 ของโลกจากรัสเซีย ชนะ ทอม กีเกลท์ กับ เดลฟีน เดอรฺรูส์ คู่มืออันดับ 19 ของโลกจากฝรั่งเศส 16-21, 21-16, 21-17, ถัง ชุนมาน กับ ไถ้ หยิงซื่อ คู่มือวางอันดับ 8 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากฮ่องกง ชนะ มาวิน ซีเดลท์ กับ ลินดา เอลเฟอร์ คู่มืออันดับ 34 ของโลกจากเยอรมัน 21-10, 21-18

ประเภทชายเดี่ยวรอบเมนดรอว์รอบแรก คันตะ ทัตสึนิยาม่า มืออันดับ 11 ของโลกจากญี่ปุ่น ชนะ ซูราฟ เวอร์มา มืออันดับ 44 ของโลกจากอินเดีย 23-21, 19-21, 21-5 ,หวัง ซื่อเหว่ย มืออันดับ 29 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ เฉิน หลง มือวางอันดับ 4 ของรายการ มืออันดับ 4 ของโลกจากจีน 21-13 , 21-18,คาชายาฟ พูริบาลี่ มืออันดับ 35 ของโลกจากอินเดีย ชนะ มิสช่า ซิลเบอร์แมน มืออันดับ 43 ของโลกจากอิสราเอล 18-21, 21-8, 21-14,คาดัมบี้ สีกาน มือวางอันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 10 ของโลกจากอินเดีย ชนะ เหริน เป็งโบ มืออันดับ 96 ของโลกจากจีน 21-13, 17-21, 21-19,เคนตะ นิชิโมโตะ มืออันดับ 11 ของโลกจากญี่ปุ่น ชนะ โซนี่ ดาวี่ คุนโคโร มืออันดับ 181 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-17, 21-11,โจว เทียนเฉิน มือวางอันดับ 4 ของรายการ มืออันดับ 3 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ ลี ดองคุน มืออันดับ 38 ของโลกจากเกาหลีใต้ 21-13, 21-13,ลี ซีเจี๋ย มืออันดับ 17 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ ซาเมียร์ เวอร์มา มืออันดับ 13 ของโลกจากอินเดีย 21-23, 21-11, 21-5, ทอมมี่ ซูกรีอาโต มืออันดับ 18 ของโลก จากอินโดนีเซีย ชนะ จ้าว จุนเป็ง มืออันดับ 39 ของโลกจากจีน 21-13, 12-21, 21-13

ประเภทชายคู่รอบเมนดรอว์รอบแรก ฮิโรยูกิ เอ็นโดะ กับ ยูตะ วาตานาเบ้ คู่มือวางอันดับ 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 5 ของโลกจากญี่ปุ่น ชนะ ซาร์บา กูตาม่า กับ เฟรงกี้ วิจจาย่า คู่มืออันดับ 52 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-13 ,21-13 , ลู่ ชิงเหยา กับ หยาง โปหาน คู่มืออันดับ 21 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ คิม คีจุง กับ คิม ซารัง คู่จากเกาหลีใต้ 21-15, 18-21, 21-17, ชอย โซคู กับ แซ ซองโจ คู่มืออันดับ 27 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ ทาเคชิ คามูระ กับ เคอิโกะ โซโนดะ คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลกจากญี่ปุ่น 11-21, 22-20 ,21-17

ประเภทหญิงคู่รอบเมนดรอว์รอบแรก ลี โซฮี กับ ชิน ซองชาน คู่มือวางอันดับ 6 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ เฉิน ลู่ กับ ยู่ เสี่ยวหาน คู่จากจีน 21-16, 21-12 , เกรเซีย โพลี่ กับ อาพริลยานี่ ราฮายู คู่มือวางอันดับ 5 ของรายการ คู่มือวางอันดับ 5 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ ซีติ ฟาร์เดีย รามาดานติ กับ ริปก้า ซูกรีอาโต คู่มืออันดับ 307 ของโลกจากอินโดนีเซีย 24-22, 26-24

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า การแข่งขันแบดมินตัน “โตโยต้า ไทยแลนด์โอเพ่น 2019” ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ได้รับการตอบรับและชื่นชมที่ดีจากทั้งนักกีฬา และเจ้าหน้าที่จาก 20 ประเทศ ว่ามีการจัดการที่ดี นับตั้งแต่เดินทางมาถึงสนามบิน ทุกคนได้รับการดูแลและการต้อนรับอย่างดีจากผู้จัดงาน รวมถึงแฟนกีฬาชาวไทยที่เข้าชมการแข่งขันที่สนาม ตลอดจนช่องทางออนไลน์อย่างไลฟ์สตรีมทุกวันทุกคอร์ทที่มีคนเข้ามาชมเป็นจำนวนมาก

“วันแรกของการแข่งขันมียอดผู้ชมทางออนไลน์กว่า 2,500,000 คนทั่วโลก และมียอดขายตั๋วเข้าชมทะลุ 2.3 ล้านบาท ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการจัดการที่ดีของฝ่ายจัดการแข่งขัน ทั้งรถรับ-ส่งผู้ชม และการจัดแคมเปญชิงรางวัลจากบัตรเข้าชมการแข่งขัน ไปชมการแข่งขันชิงแชมป์โลก ที่สวิตเซอร์แลนด์กว่า 40 ที่นั่ง ขณะเดียวกันเป็นปีที่ต้องเก็บคะแนนเพื่อลุ้นไปแข่งขันรอบสุดท้ายในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้มีนักกีฬายอดฝีมือเดินทางมาแข่งขันเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็เป็นประโยชน์ต่อผู้ชมชาวไทย และประเทศไทยในเรื่องของเศรษฐกิจ ที่จะมีการจับจ่ายใช้สอยและเงินสะพัดมากขึ้น” คุณหญิงปัทมา กล่าว

ในส่วนของผลงานนักกีฬาไทย เป็นที่น่าพอใจ แม้ดาวรุ่งที่เพิ่งคว้าแชมป์เยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ทั้งในประเภทบุคคลและประเภททีมผสมจากการแข่งขันแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย อย่าง “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ดีกรีแชมป์ชาวเดี่ยวเยาวชนเอเชียคนแรกของประเทศไทย ที่พ่ายมือดีอย่าง โซนี่ คุนโคโร่ จากอินโดนีเซีย แต่เข้าใจได้ว่าสภาพร่างกายอาจจะล้า หลังลงแข่งขันมาตลอด 2 สัปดาห์ และเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ก่อนแข่งขันเพียง 1 วัน ส่วน “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล-“วิว” รวินดา ประจงใจ เข้ารอบสองได้ตามคาด เช่นเดียวกับยอดฝีมือของไทยอีกหลายคน อย่างไรก็ดี เสียงเชียร์จากชาวไทยเป็นสิ่งที่นักกีฬาไทยต้องการ จึงขอเชิญชวนชาวไทยมาร่วมกันให้กำลังใจนักกีฬาไทยกันมากๆ” .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้

วุ่นแต่เช้า! ด่านคลองลึก “ไทย-กัมพูชา” เปิดไม่พร้อมกัน

สระแก้ว 8 มิ.ย.- ด่านคลองลึก วุ่นแต่เช้า! “ไทย-กัมพูชา” เปิดด่านชายแดนไม่พร้อมกัน หลังปรับเวลาวันแรก ทำคนรอหน้าด่านจำนวนมาก ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดประตูด่านพรมแดนคลองลึก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากวันนี้นับเป็นวันแรกที่เริ่มใช้มาตรการเปิดด่านเวลา 08.00 น. พอถึงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการเปิดประตูด่านพรมแดน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชา ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดด่านแต่อย่างใด โดยมีชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากจากฝั่งไทยที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งพนักงานกาสิโนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องมายืนรอกัมพูชาเปิดด่าน ต่อมา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ. ร้อย ทพ.1201 ได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กัมพูชาบริเวณประตูพรมแดนฝั่งกัมพูชาถึงสาเหตุที่กัมพูชายังไม่เปิดด่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.และตำรวจกัมพูชา แจ้งมาว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาให้เปิดด่านเวลา 09.00 น. ซึ่งไม่ตรงกับไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องออกประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่จะไปทำงานในฝั่งกัมพูชาทราบว่าด่านไทยเปิดเวลา 08.00 น. แต่ด่านกัมพูชา เปิด 09.00 น. […]