พิษอกหัก’ เหตุหนุ่มสาว 4จว.อีสานตอนล่างคิดสั้น แนะ 7 วิธีเยียวยาแผลใจ

สำนักข่าวไทย 30 ก.ค.-พบปัญหาอกหัก ผิดหวังความรัก เป็นสาเหตุให้คนวัยหนุ่มสาวในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานตอนล่างคิดสั้น ในรอบ 9 เดือนของปีนี้ พบ10 คน แนะใช้ 7วิธีเยียวยาแผลใจให้หายเร็ว ‘ปรับใจยอมรับความจริง–ลบสิ่งซ้ำเติมแผลใจโดยเฉพาะโซเซียลอดีตแฟน-สร้างสิ่งดีๆให้พลังใจสู้’แต่หากยังรู้สึกแย่ลงเรื่อยๆให้พึ่งสายด่วนสุขภาพจิต1323ฟรี 24 ชั่วโมงหรือพบจิตแพทย์ ไม่ต้องอาย 


พญ.กรองกาญจน์  แก้วชัง รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์และประธานทีมนำทางคลินิก โรงพยาบาล (รพ.) จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา  ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การฆ่าตัวตายในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ซึ่งอยู่ในเขตสุขภาพที่ 9 หรือนครชัยบุรินทร์  ได้แก่นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์และบุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของรพ.จิตเวชนครราชสีมาฯและศูนย์สุขภาพจิตที่ 9 ว่า  ในรอบเกือบ 9 เดือนของปีงบประมาณ 2562  ตั้งแต่ตุลาคม2561 ถึง 25 มิถุนายน 2562  มีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ 205 คน เป็นชาย  177 คน หญิง 28 คน คิดเป็นอัตรา 3.02 ต่อประชากรแสนคน แนวโน้มลดลงเป็นไปตามเป้าหมายของกรมสุขภาพจิต   


สาเหตุหนึ่งของการฆ่าตัวตายที่พบในพื้นที่ คือเรื่องผิดหวังความรัก มักพบในวัยหนุ่มสาว ซึ่งในปีนี้พบ 10 คน อยู่ในอันดับที่ 4 ของสาเหตุฆ่าตัวตายทั้งหมด ตลอดปี 2561ในเขตสุขภาพที่ 9 มีผู้ฆ่าตัวตายจากสาเหตุนี้จำนวน 28 คน อย่างไรก็ตามปัญหานี้สามารถแก้ไขให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีความสุข   การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา


ด้าน พญ.นพวรรณ  ตันศิริมาศ  จิตแพทย์และประธานอนุกรรมการการพัฒนาระบบฟื้นฟูผู้ป่วยเพื่อการฟื้นคืนสุขภาวะ(Recovery Model) ประจำ รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ กล่าวว่า ปัญหาอกหัก ถูกคนรักนอกใจนั้นเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิต เมื่อเผชิญปัญหาแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องรู้จักวิธีการเยียวยาฟื้นฟูจิตใจตัวเองให้แผลใจหายเร็วที่สุด โดยมีข้อแนะนำให้ปฏิบัติ 7 ประการดังนี้ ประการแรกคือให้ปรับใจยอมรับความจริง ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่สำคัญที่สุดเพราะการยอมรับทำให้อยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบันได้และจะช่วยให้สามารถเดินหน้าต่อไป 

2. ไม่หมกมุ่นเก็บปัญหาความรักที่เกิดขึ้นและผ่านมาแล้วมาคิดซ้ำๆ วกวน เช่น ทำไมเขาทำแบบนี้, ทำไมเขาจึงเลิกกับเรา เป็นต้น เนื่องจากจะทำให้ทุกข์ใจซ้ำเติม

3. ให้เก็บสิ่งที่จะซ้ำเติมบาดแผลใจหรือกระตุ้นให้หวนระลึกถึงเรื่องเดิมๆ ออกไปให้พ้นจากสายตา เช่นภาพถ่าย ของขวัญของอดีตแฟนเป็นต้น ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งในยุคโลกโซเซียล เช่นไลน์ เฟซบุ๊กของอดีตแฟนที่เคยใช้ติดต่อกัน ขอให้ลบออกจากหน้าจอมือถือของตนเองให้หมด เนื่องจากหากยังพยายามติดต่อกับอดีตแฟนทางเฟซบุ๊กหรือไลน์เป็นระยะๆ เพื่อหวังว่าจะกลับมาเป็นแฟนเราเหมือนเดิม หากอดีตแฟนไม่โต้ตอบกลับมาก็จะยิ่งตอกย้ำให้ช้ำใจหนักขึ้นไปอีก และแนะนำให้หลีกเลี่ยงฟังเพลงประเภทอกหัก ผิดหวัง เพื่อไม่ให้อารมณ์จมดิ่งไปกับความเศร้าใจ  ซึ่งจะมีผลทำให้การปรับตัวช้าขึ้นไปอีก   

4.เร่งสร้างสิ่งดีๆ เพิ่มพลังใจสู้ให้ตัวเอง เพื่อก้าวข้าม ชนะปัญหาให้ได้ โดยต้องไม่โทษตัวเองว่าผิด และฝึกการยิ้มหน้ากระจก ฝึกการชื่นชมสิ่งดีๆ ให้ตัวเองทุกเช้าหลังตื่นนอน อาจพูดในใจหรือพูดเปล่งเสียงออกมาให้ได้ยิน เช่น “สวยจัง-เก่งจัง-หล่อจัง” เป็นต้น คำพูดดีๆ เหล่านี้ จะฝังอยู่ใต้จิตสำนึก ทำให้เกิดพลังต่อสู้กับอุปสรรค ช่วยสร้างความภาคภูมิใจ-มั่นใจ เสริมความเข้มแข็งทางจิตใจ จะช่วยลดความรู้สึกด้อยค่าลงได้อย่างดี รวมทั้งปรับตัวกับการใช้ชีวิตใหม่ที่ให้ความสุขตัวเอง เช่น ไปดูหนัง กินข้าวกับเพื่อน ออกกำลังกายเช่น วิ่ง หรือเข้าฟิตเนส วันละ 30-60 นาที ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา จิตใจแจ่มใส นอนหลับได้ดีขึ้น  

5. ทำชีวิตแต่ละวันให้มีคุณค่า ให้รีบกลับไปทำกิจกรรมหน้าที่ที่เคยทำตามปกติให้เร็วที่สุด แม้จะรู้สึกว่าไม่มีอารมณ์หรือไม่อยากไปก็ตาม การทำกิจกรรมจะทำให้เรามีสติ มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่เราทำและได้พูดคุยกับเพื่อน ผู้ร่วมงาน จะเกิดความเพลิดเพลิน ความคิดจะไม่ฟุ้งซ่านแต่เรื่องเดิมๆ

6.มีที่ปรึกษาที่ดี อาจเป็นเพื่อนสนิท เพื่อระบายทุกข์ที่มีอยู่ในใจทั้งหมดออกมา 

และ7.ใจเย็นและอดทน ทั้งหมดนี้เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งอาการเศร้าเสียใจจะดีขึ้นเรื่อยๆ กลับมาเบิกบานสนุกสนานเหมือนเดิม 

อย่างไรก็ตามหากยังไม่ดีขึ้น อาการแย่ลง จนไม่อยากทำอะไร ชีวิตในแต่ละวันมีแต่ความน่าเบื่อ ไม่มีความสุขเกิดติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์ ขอให้ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมงหรือพบจิตแพทย์เพื่อรักษาอาการที่เป็น ไม่ต้องอาย จะสามารถคลี่คลายปัญหาได้อย่างปลอดภัย สิ่งที่ไม่ควรใช้แก้ปัญหาหลังอกหัก เสียใจ คือการพึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดหรือใช้ยาเสพติดย้อมใจ เพราะนอกจากจะไม่ได้ทำให้อาการดีขึ้นอย่างถาวรแล้ว ยังเสี่ยงเกิดการเสพติดได้ง่าย ปัญหาจะรุนแรง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 10 มิ.ย.-สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (9 มิ.ย.68) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานสิ่งของให้ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ณ วังศุโขทัย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับทหารชายแดน ประกอบด้วย เงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ , พระ และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตย ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา.-313.-สำนักข่าวไทย

พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกฯ คนที่ 19 ถึงแก่อสัญกรรม

กทม. 10 มิ.ย.- พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 19 ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา ที่ รพ.พระมงกุฎฯ อายุ 91 ปี เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุจินดา คราประยูร เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 01.57 น. ที่ รพ.พระมงกุฎฯ ด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี 10 เดือน 4 วัน กำหนดการพิธีศพ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป สำหรับ พล.อ.สุจินดา คราประยูร (เกิด 6 สิงหาคม พ.ศ. 2476) เป็นนายทหาร และนายกรัฐมนตรีคนที่ 19 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด หนึ่งในคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ […]

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย