ดัชนีผลผลิตอุตฯ มิ.ย.ลดลงร้อยละ 5.54 มากสุดในรอบ 29 เดือน

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม มิ.ย.หดตัวร้อยละ 5.54 จากช่วงเดียวกันปีก่อน มากสุดในรอบ 29 เดือน เหตุจากสงครามการค้าโลกทำให้การค้าชะลอตัว  


นายอดิทัต วะสีนนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI เดือนมิถุนายน2562 ปรับลดลงคิดเป็นร้อยละ 5.54 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ถือเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับจากปรับฐานดัชนี MPI เมื่อเดือนมกราคม 2559 ซึ่งนับเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 29 เดือน ส่งผลภาพรวม MPI ไตรมาส 2 หดตัวลงร้อยละ 2.64 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา


สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนี MPI ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์ การผลิตรถยนต์เดือนมิถุนายน 2562 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 8.52 โดยมาจากยอดขายในประเทศที่หดตัวลงร้อยละ 2.1 เพราะการเข้มงวดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ นับเป็นการลดลงเป็นเดือนแรกในรอบ 30 เดือน ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์ยังขยายตัวร้อยละ 2.4  ผลิตภัณฑ์ยาง น้ำมันปิโตรเลียม ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และเครื่องประดับแท้ โดยมีสาเหตุหลักมาจากความต้องการบริโภคในประเทศและคำสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศชะลอตัวลง ยกเว้นน้ำมันปิโตรเลียมที่มีการซ่อมบำรงโรงกลั่นตามวาระการตรวจซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ 

ขณะที่อุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวกต่อดัชนี MPI ได้แก่ น้ำมันปาล์ม เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน เภสัชกรรม เคมีภัณฑ์ที่ใช้รักษาโรค เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์และน้ำดื่มและเบียร์


ส่วนประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อการผลิตเดือนกรกฎาคม 2562 ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลกจากการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐที่มีต่อจีน รวมถึงประเทศอื่น ๆ ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด มูลค่าการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบหักทองเดือนมิถุนายน 2562 ติดลบร้อยละ 4.0 ติดลบเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน อาจส่งผลต่อ MPI ในช่วงเวลาข้างหน้า ผลกระทบจากภัยแล้ง อาจส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตรต่อเนื่องไปยังอุตสาหกรรมที่ต้องใช้วัตถุดิบทางการเกษตรและภาพรวมเศรษฐกิจอุตสาหกรรมช่วงที่เหลือปี 2562 ประเมินว่าจะค่อย ๆ ปรับดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก จากผลของฐานที่ต่ำในปี 2561 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ที่คาดว่าจะผลักดันนโยบายที่สอดคล้องกับที่พรรคร่วมรัฐบาลเคยหาเสียงไว้ช่วงก่อนการเลือกตั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง