มท.1 สั่งการผู้ว่าฯ ติดตามสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่

ทำเนียบฯ 30 ก.ค.-“พล.อ.อนุพงษ์” ไม่ประมาทภัยแล้ง สั่งการเตรียมปริมาณน้ำให้เพียงพอถึง พ.ค.ปีหน้า แนะเกษตรกรปลูกพืชทดแทน รับกระแสโซเชียลชื่นชมอภิปรายดีเด่น ชี้เป็นเรื่องที่สภาเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้ประชาชน


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลมีเดียยกให้เป็นหนึ่งในผู้ชี้แจงนโยบายรัฐบาลดีเด่น ว่า การอภิปรายนโยบายรัฐบาลมีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลหลายเรื่อง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องดีที่ผู้แทนมีแนวคิดในการแก้ปัญหาให้เกษตรกร และรัฐบาลต้องรับมาพิจารณาว่ามีเรื่องใดที่ดำเนินการไปแล้ว เรื่องใดที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ติดขัดปัญหาใด ซึ่งต้องหารือในกระทรวง ทั้ง ประมง เกษตร ที่ดิน

ส่วนการแบ่งงานของกระทรวงมหาดไทยนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า รัฐมนตรีทั้ง 3 คนต้องหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้ทำตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งเป็นนโยบายพื้นฐาน จากนั้นจะพูดคุยคำแถลงนโยบายรัฐบาลว่าส่วนใดเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทยจะทำงานควบคู่ไป และนำนโยบายจาก 2 พรรคร่วมมาพูดคุยกัน หากมีส่วนใดต้องนำเข้าคณะรัฐมนตรี ก็พร้อมจะผลักดัน


“การทำงานของรัฐมนตรีทั้งสามคน จะแบ่งกันกำกับดูแลกรมต่างๆ เพื่อควบคุมประสิทธิภาพการทำงาน ให้เกิดความโปร่งใส หากท่านใดจะเสนอแนวทางการทำงานที่เป็นประโยชน์ข้ามกรมที่ดูแลได้ ก็สามารถทำได้ แต่จะต้องนำเรื่องมาหารือกันก่อน ขอยืนยันว่าจะไม่นำนโยบายของพรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแยกดำเนินงาน” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (30 ก.ค.) จะหารือถึงการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ซึ่งจากการติดตาม พบว่ามีการคาดการณ์ปริมาณฝนที่จะตกลงมา ช่วยให้เพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บได้ ขั้นต่อไปคือการบริหารจัดการน้ำ หากฝนตกใต้เขื่อน ก็จะลดการระบายน้ำลง ซึ่งจะส่งผลกับเกษตรกรที่ดำเนินการเพาะปลูกไปแล้วว่าจะบริหารน้ำอย่างไรให้เพียงพอ และต้องประเมินว่าปริมาณน้ำที่มีจะเพียงพอถึงต้นเดือนพฤษภาคมปีหน้าหรือไม่ ซึ่งเรื่องปริมาณน้ำ ตนจะไม่ประมาทแน่นอน โดยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำหลายพื้นที่ เบื้องต้นได้แจ้งเตือนประชาชนและเกษตรกรว่าควรปลูกพืชชนิดใดให้เหมาะสมกับสถานการณ์น้ำ ซึ่งบางพื้นที่ได้เสนอให้ปลูกพืชทดแทน เช่น ถั่ว เพราะข้าวใช้น้ำมาก หากปลูกไปแล้ว เกษตรกรจะได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังเตรียมเครื่องมือให้การช่วยเหลือ ทั้งน้ำอุปโภคและบริโภค สำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดจะมีงบสำรองในการแก้ปัญหาภัยแล้งเบื้องต้น

พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวถึงข้อห้ามไม่ให้ ส.ส.ดำรงตำแหน่งข้าราชการทางการเมืองว่า ต้องทำตามกฎหมาย ต้องเลือกเอา ซึ่งไม่มีปัญหากับบุคลากรที่จะเข้ามาทำงานให้รัฐบาล เพราะประเทศไทยมีคนจำนวนมากที่จะสามารถทำงานได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ