กรุงเทพฯ 27 ก.ค. –1 ใน 4 เจ้าของบัญชี ธนาคารที่ “ตั้มโอนนาน แจ้งความจับถูกหญิงสาว ใช้ภาพ นางเอกเอ็มวีค่ายดัง หลอกโอนเงินให้กว่า 7 ล้านบาท เข้าพบตำรวจกอบปราบ แสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่เกี่ยวข้องคดีดังกล่าว แต่ยอมรับ ให้เพื่อนสนิท ชื่อ “ขิม” ยืมชื่อไปเปิดบัญชี
เวลา 13.30 นางสาวนินนิสา สิงห์ทอง อายุ 34 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน กองปราบปราม เพื่อลงบันทึกประจำวันแสดงความบริสุทธิ์ใจหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย คดีที่นักธุรกิจออกแบบตกแต่งสวนเข้าร้องตำรวจกองปราบ เมื่อวานนี้ ว่าถูกหญิงสาวที่รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก หลอกให้โอนเงินรวมทั้งหมด260 ครั้ง มูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท
นางสาว นินนิสา ยอมรับว่า 1 ใน 4 บัญชีธนาคารที่ นักธุรกิจออกแบบสวน ผู้เสียหาย ระบุว่าโอนเงินไปนั้น เป็นชื่อเก่าของตน คือ นางสาวนันท์ธนะดี ภักดีสิงห์ทอง โดยมีเพื่อนสาว ชื่อ ‘ขิม’ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ขอยืมใช้ชื่อไปเปิดบัญชีดังกล่าว พร้อมชักชวนให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจรับตกแต่งสวนกันตั้งแต่เมื่อปี 2558 แต่ขณะนั้นยังมีเงินไม่เพียงพอ จึงให้เพียงชื่อไปเปิดบัญชี และให้บัตรเอทีเอ็มกับขิมไปด้วย ตั้งใจไว้ว่า หากมีเงินเพียงพอจะเข้าร่วมธุรกิจด้วยภายหลัง ก่อนที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาจะเปลี่ยนเป็นชื่อปัจจุบัน
นางสาว นินนิสา กล่าวต่อว่า หลังจากปี 2558 ก็ติดต่อกับ “ขิม” คนนี้มาโดยตลอด และเพื่อนไม่ได้มีท่าทีพิรุธใดๆ ตรงกันข้ามกลับโพสต์เฟซบุ๊กใช้ชีวิตสุขสบาย จนไม่น่าเชื่อว่าจะมีปัญหาด้านการเงิน กระทั่งเมื่อวานนี้ เห็นข่าวนักธุรกิจชาย แจ้งความกับว่าถูกหญิงสาวหลอกให้โอนเงินมายังบัญชีที่ปรากฏ ชื่อเก่าของตนที่ให้เพื่อนสนิทไปเปิด ทำให้ตกใจมาก เพราะส่วนตัวไม่เคยรู้จักหรือพบหน้าชายคนนี้มาก่อน และไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือได้เงินใดๆจากบัญชีนั้นด้วย แต่กลับตกเป็นผู้ต้องสงสัยทางคดี วันนี้จึงตัดสินใจมาลงบันทึกประจำวันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่รู้เห็น และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยอม รับว่าไม่มีหลักฐานใดมาแสดงต่อตำรวจ เพราะเรื่องเกิดมานานหลายปี และเมื่อทราบเรื่องก็รีบมาหาตำรวจทันที หลังจากนี้จะไปขอข้อมูลบัญชีตนกับธนาคาร เพื่อมายื่นให้ตำรวจเพิ่มเติม
ทั้งนี้ หลังเกิดเรื่อง นางสาวนินนิสา ได้พยายามติดต่อไปถาม “ขิม” เพื่อนสนิท แต่กลับติดต่อไม่ได้ และบ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเริ่มเอะใจ และกลัวว่าเพื่อน น่าจะเกี่ยวข้องกับการหลอกนักธุรกิจชายคนดังกล่าวจริง รับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ บทเรียนครั้งสำคัญว่าไม่ควรไว้ใจใคร แม้กระทั่งคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทก็ตาม – สำนักข่าวไทย