น่าน 26 ก.ค.-จ.น่าน พบผู้ป่วยโรคเนื้อเน่าเข้ารักษาเพิ่มอีก 2 ราย กรมควบคุมโรคส่งทีมสอบสวนโรคด่วน ด้านสาธารณสุขย้ำไม่ใช่โรคติดต่อ และไม่ยืนยันโรคมาจากสารเคมี
โรคเนื้อเน่าและหนังเน่า หรือแบคทีเรียกินเนื้อคน ที่กำลังระบาดไปทั่วในพื้นที่จังหวัดน่าน สถานการณ์แนวโน้มรุนแรง โดยวันนี้ (26 ก.ค.) มีผู้ป่วยอาการหนักส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเพิ่มอีก 2 ราย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย อาการโคม่า 2 ราย ยังต้องเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
นายอำนวย ทิพศรีราช นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ สำนักงานควบคุมโรคเขต 1 ร่วมกับนายแพทย์นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดน่าน ร่วมกันสอบสวนการระบาดของโรคเนื้อเน่า ที่เกิดการระบาดในพื้นที่จังหวัดน่าน ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ขณะนี้ที่โรงพยาบาลน่าน มีผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษายอดรวม 51 ราย เสียชีวิตแล้ว 5 ราย และยังมีอาการหนักรักษาตัวในห้องฉุกเฉินไอซียู 2 ราย โดยพบผู้ป่วยกระจายในทุกอำเภอ พบมากที่สุดคือพื้นที่อำเภอเมืองน่าน อำเภอเวียงสา อำเภอภูเพียง และอำเภอท่าวังผา ตามลำดับ ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและชาวนาที่ต้องทำงานในแปลงนาข้าว นอกจากนี้ได้รับเชื้อจากการงมหอย หาปลาในแม่น้ำน่านด้วย
นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน ให้ข้อมูลว่า ในช่วงเวลา 5 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2558-2562 พบผู้ป่วยโรคเนื้อเน่าจำนวน 227 ราย โดยมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมของทุกปี ส่วนใหญ่แผลมักเกิดขึ้นที่บริเวณเท้าและข้อเท้า พบผู้ป่วยกระจายในทุกอำเภอ พบมากที่อำเภอเมืองน่าน อำเภอเวียงสา อำเภอภูเพียง อำเภอท่าวังผา ตามลำดับ ส่วนในปี 2562 พบผู้ป่วยจำนวน 51 ราย และเสียชีวิตยอดสะสม 5 ราย
อย่างไรก็ตาม สาธารณสุขจังหวัดน่านย้ำว่าโรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่และไม่เป็นโรคติดต่อ แต่เป็นโรคเฉพาะบุคคล ส่วนใหญ่เกิดจากมีบาดแผลทางผิวหนังและได้รับเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย ขณะที่ประเด็นเรื่องสารเคมีในพื้นที่การเกษตรเป็นสาเหตุของโรคเนื้อเน่า ยังไม่มีรายงานผลการวิจัยหรือรายงานทางวิชาการอ้างอิงได้ จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสาเหตุหลักของโรคดังกล่าว แต่สารเคมีเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง เมื่อเกาจึงเกิดเป็นบาดแผลรอยถลอก ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายได้แน่นอน
ขณะนี้สาธารณสุขจังหวัดน่านเร่งประชุมให้ทุกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต. และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ทุกพื้นที่ เตรียมพร้อมสำหรับการให้บริการล้างบาดแผล และให้ความรู้ความเข้าใจ และเตือนเกษตรกร รวมถึงประชาชน ได้สังเกตอาการของโรค หากมีบาดแผลและมีอาการปวด บวมแดง อักเสบ ไม่จำเป็นต้องรอให้เป็นไข้สูง ขอให้รีบไปยัง รพ.สต.ใกล้บ้าน เพื่อล้างและทำความสะอาดแผล และเข้าสู่ระบบการรักษาตั้งแต่ต้น ในส่วนของเกษตรกรและชาวนาที่ต้องลงแปลงนาและสัมผัสกับดินโคลนโดยตรง ขอให้ใส่ชุดป้องกัน เช่น รองเท้าบูท ถุงมือยาง และหากมีบาดแผลทางผิวหนังให้รีบล้างน้ำสะอาดและทำแผลทันที.-สำนักข่าวไทย