จันทบุรี 25 ก.ค.- จับแล้ว ชายวัย 38 ปี โจรสายวิ่ง ตระเวนงัดเบาะรถจักรยานยนต์ฉกทรัพย์ของคนที่มาออกกำลังกายในสวนสาธารณะ ตำรวจสอบเชิงลึก พบก่อเหตุมาแล้ว 4 จังหวัด
บ่ายวันนี้ พ.ต.อ.คมน์สรณ์ มาบำรุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัว นายขวัญจิต ศรีวิชัยแก้ว อายุ 38 ปี ชาวอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสวนสาธารณะ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ริมทะเลสาบทุ่งนาเชย เทศบาลเมืองจันทบุรี หลังก่อเหตุตระเวนงัดเบาะรถจักรยานยนต์ของประชาชนที่มาออกกำลังกายในสวนสาธารณะ แล้วทำการลักทรัพย์ก่อนหลบหนีไป โดยกล้องวงจรปิดของศูนย์ควบคุมความปลอดภัยเทศบาลเมืองจันทบุรี สามารถบันทึกภาพพฤติกรรมขณะก่อเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน
ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี เปิดเผยว่าการจับกุมในครั้งนี้ ผู้เสียหาย ได้นำคลิปวงจรปิด ไปแจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ต่อมา ตำรวจสืบสวน ได้แกะรอยจากภาพวงจรปิด พร้อมประสานสถานีตำรวจท้องที่ใกล้เคียง ที่มีการก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน จนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายขวัญจิต ผู้ต้องหา ซึ่งจากแหล่งข่าวทราบว่า ได้ไปเปิดห้องพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสิงห์บุรี จึงได้นำหมายศาลไปตามจับกุมตัวได้โดยละม่อม
ตรวจสอบภายในห้องพักพบธนบัตรเงินไทยและสกุลต่างชาติ รวมกว่าหนึ่งหมื่นบาท บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต ธนาคารต่างๆจำนวนหลายสิบใบ ซุกซ่อนในกระเป๋าสะพายสีดำ พร้อมรถยนต์เก๋งมาสด้า สีดำ หมายเลขทะเบียนกษ 4960 อุดรธานี พาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ ที่จอดอยู่หน้าห้องพัก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน รอการตรวจสอบ ก่อนควบคุมตัวกลับมาสอบสวนยังโรงพักที่จันทบุรี
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายขวัญจิต ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุงัดเบาะรถจักรยานยนต์เพื่อลักทรัพย์ตามที่ปรากฏในคลิปจริง และเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง ส่วนสาเหตุที่ทำไปเพราะว่าไม่มีงานทำ โดยทรัพย์สินที่ได้จะนำไปผ่อนรถและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จากแนวทางการสืบสวนของตำรวจในเชิงลึกทราบว่า นายขวัญจิต ผู้ต้องหาได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 4 จังหวัด มี 3 หมายจับติดตัวในคดีฉ้อโกง และลักทรัพย์ พฤติกรรมการก่อเหตุ จะสุ่มเลือกเฉพาะรถจักรยานยนต์ของเหยื่อที่มาออกกำลังกายบริเวณสวนธารณะและใช้ทักษะความชำนาญ โดยใช้มือเปล่างัดเบาะ แล้วล้วงเอาขโมยเอาทรัพย์สินไป เบื้องต้นทางตำรวจได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย
