กทม. 25 ก.ค.-โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ถือเป็นโรงพยาบาลต้นแบบที่ใช้ระบบ Stroke fast Track หรือทางด่วนรักษาโรคหลอดเลือดสมอง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเตรียมพัฒนาการรักษาให้ดีขึ้น และรองรับผู้ป่วยมากขึ้น จากเดิม 800 คนต่อปี
นพ.อดิชาญ เชื้อจินดา อายุรแพทย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เปิดเผยโรงพยาบาลใช้ระบบ Stroke fast Track ที่กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับโรงพยาบาลทั่วประเทศ พัฒนาขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตันและตีบมากว่า 10 ปี พบว่าผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้รวดเร็ว ลดการเสียชีวิตหรือพิการรุนแรงได้จำนวนมาก หลังปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สาเหตุหลักการเสียชีวิตของคนไทย โดยโรงพยาบาลเตรียมพัฒนาระบบการรักษาผู้ป่วยให้เร็วขึ้น จากเดิม 1 ชั่วโมงต่อคน ตั้งเป้าเป็นครึ่งชั่วโมง หรือ 45 นาทีต่อคน เพื่อลดการเสียโอกาสในชีวิตของผู้ป่วย และเพิ่มจำนวนเตียงจาก 8 เตียง เป็น 18 เตียง
ด้านนางศรัญญา บุญโญ ผู้จัดการรายกรณีโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า หากผู้ใดเริ่มมีอาการหน้าเบี้ยว แขน-ขาชา ลิ้นแข็ง เพียงอาการใดอาการหนึ่ง ให้รีบพบแพทย์ อย่ารอช้า เพราะช่วงเวลาทองของการรักษาคือไม่เกิน 4 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ที่ผ่านการอบรมจะทำงานอย่างเป็นระบบ คัดกรองและรักษาได้เร็ว อย่างป้าจำเนียร วัย 69 ปี รู้ตัวและมาโรงพยาบาลเร็ว แค่วันเดียวก็กลับมาปกติ ขณะเดียวกันก็ได้ให้ความรู้แพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาลอื่นในพื้นที่ เพื่อให้การส่งตัวและดูแลผู้ป่วยมีประสิทธิภาพและเป็นระบบมากขึ้นด้วย.-สำนักข่าวไทย