รัฐบาลคุมเข้มโรงงานสมุทรสาครแก้ปัญหาประมง

สมุทรสาคร 15 ส.ค. – กระทรวงอุตสาหกรรมบูรณาการเจ้าหน้าที่รัฐ-ทหารคุมเข้มโรงงานในสมุทรสาครหวังแก้ปัญหา IUU


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพื่อกำกับดูแลโรงงานอุตสาหกรรมและสถานประกอบการตามพรบ.โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย การประมงที่ขาดการรายงาน และการประมงที่ขาดการควบคุม หรือIllegal Unreported  and  Unregulated  Fishing:IUU และเพื่อรองรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการค้ามนุษย์ ตามพลเอกประยุทธ์จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี

กระทรวงอุตสาหกรรม จึงบูรณาการเจ้าหน้าที่ภาครัฐและทหาร ตั้งคณะทำงานตรวจสอบกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยโรงงาน  ซึ่งประกอบด้วยกรมโรงงานอุตสาหกรรม มณฑลทหารบกที่ 16 และจังหวัดสมุทรสาคร โดยทำการเปิดตัววันนี้(15 ส.ค.)ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบดูแลโรงงานและสถานประกอบการให้ปฎิบัติตามกฎหมายของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และจัดพิธีเปิดตัวขบวนคณะทำงานฯ พร้อมจัดทีมลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานในจังหวัดสมุทรสาครทันที


นายศักดา พันธ์กล้า รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันนี้(15 ส.ค.) กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับรายงาน ว่า มี โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดสมุทรสาครมีการกระทำผิดตามพรบ.โรงงานอุตสาหกรรมในวงกว้าง นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จึงสั่งการให้ลงพื้นที่เพื่อดูแลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยบูรณาการเจ้าหน้าที่ภาครัฐออกทำงานตรวจสอบร่วมกันกับทหาร หากพบการกระทำผิดตามกฎหมายของหน่วยงานใดก็จะส่งให้หน่วยงานนั้นดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

 

สำหรับคณะทำงานตรวจสอบกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยโรงงาน พร้อมด้วยทีมเฉพาะกิจ DIW ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม 50 คน จะร่วมมือกับมณฑลทหารบกที่ 16 นำร่องปฏิบัติการตรวจโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำและอุตสาหกรรมต่อเนื่องกับประมงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร  ได้แก่โรงงานแปรรูปสัตว์น้ำและโรงงานห้องเย็น โดยหากตรวจพบว่ากระทำผิดพรบ.โรงงานอุตสาหกรรม มีการประกอบกิจการที่ก่อให้เกิดน้ำเสียและมีการระบายน้ำออกนอกโรงงานโดยไม่ปรับปรุงคุณภาพของน้ำเสียให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนดหรือลักลอบปล่อยน้ำทิ้ง สู่แหล่งน้ำสาธารณะสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ชุมชนและสังคม จะดำเนินคดีทั้งจำและปรับ ปัจจุบันจังหวัดสมุทรสาครมีโรงงานอุตสาหกรรมที่จดทะเบียนรวมกว่า 5,000 โรงงาน ในจำนวนนี้อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องกับการประมงจำนวนกว่า 300 โรงงาน


นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า คณะทำงานตรวจสอบกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยโรงงาน นำร่องตรวจสอบโรงงาน สถานประกอบการ ที่เกี่ยวกับการประมงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ในระยะแรกออกตรวจ 30 โรงงานให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ จากนั้นจะมีการประเมินผลการดำเนินงานเพื่อปรับปรุงแผนและขยายผลการตรวจสอบโรงงานต่อไป นอกจากนี้ยังมีแนวทางการแนะนำและส่งเสริมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงานเพื่อให้ประกอบกิจการอย่างถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายโรงงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน

นายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสาคร มีพื้นที่ ทางทิศใต้ติดต่อกับอ่าวไทยมีความยาวถึง 41.7 กิโลเมตร  มีการประกอบอาชีพทางประมงอย่างกว้างขวาง มีเรือประมง กว่า 1,000 ลำ สามารถ จับสัตว์น้ำได้มากที่สุดของประเทศรวมถึงมีแรงงานรวมกว่า 437,491 คน ที่ผ่านมา การบังคับใช้กฎหมายทางจังหวัดได้กำกับดูแลตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข กฎหมายว่าด้วยโรงงานและกฎหมายว่าด้วยรายงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือศร.ชล. ติดตามดูแลผู้ประกอบการ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อป้องกันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม

พลตรีชวลิต พงษ์พิทักษ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 16 กล่าวว่า เพื่อแสดงถึงการเข้มงวด ในการบังคับใช้กฎหมาย ของรัฐบาลกับสถานประกอบการ มณฑลทหารบกที่ 16 จึงจัดตั้งทีมทหารเพื่อดำเนินการตรวจสอบโรงงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครโดยดำเนินการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งมีเป้าหมายเป็นโรงงานที่ถูกร้องเรียนและโรงงานที่มีน้ำเสีย ที่ผ่านมาดำเนินการตรวจสอบไปแล้วบางส่วน ภายใต้กฎหมายสาธารณสุขและพรบ.โรงงาน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 ถึง 30 มิถุนายน 2559 ตรวจไปแล้ว 139 โรง โดยเป็นตรวจตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535  สั่งให้แก้ไขปรับปรุง 94 โรง หยุดชั่วคราว  45  โรง  อนุญาตให้เปิดแล้ว 23  โรง  ยังไม่อนุญาต 22  โรง ส่วนการตรวจสอบตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535  ตรวจ  109  โรงงาน  สั่งให้แก้ไขปรับปรุง 85  โรง  หยุดชั่วคราว 24  โรง  อนุญาตให้เปิด 13  โรง ส่วนยังไม่อนุญาตให้เปิด 11  โรง  และยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในเดือนสิงหาคม 2559 กรมโรงงานอุตสาหกรรมมีโครงการตรวจสอบโรงงานเพื่อ กำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยโรงงาน มณฑลทหารบกที่ 16 พร้อมให้ความร่วมมือ ยืนยันจะดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง

กทม. 28 ก.ค.-ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง ขณะ ทภ.2 เตือนอย่าเชื่อข่าวปลอม กองทัพไม่สนทางรัฐบาลเจรจา กร้าวเดินหน้ารบ-ประกาศอัยการศึก พร้อมชวนกดรีพอร์ทโพสต์-คอมเมนต์ผู้ไม่หวังดีโจมตีสื่อทางการไทย กองทัพบกทันกระแส รายงานว่าเข้าวันที่ 5 ของสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ตี 1 ตี 3 จนฟ้าเริ่มสาง ทหารไทยยังไม่ได้พักมีทุกแบบ ทั้งคืน นอกจากนี้ กองทัพภาคที่2 ยังได้ขอความร่วมมือ ชาวโซเชียลไทย กดรีพอร์ท Report โพสต์หรือคอมเม้นต์ของผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการเข้ามา กลั่นแกล้ง ก่อกวน และโจมตี สื่อทางการไทย พร้อนเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม กรณีที่มีข่าวว่า “กองทัพแข็งกร้าว! ลั่นเดินหน้ารบ ซัดรบ.อย่าหวังเจรจา ขณะเขมรยึดพื้นที่ไทย จ่อใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ”.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย