ชลบุรี 24 ก.ค.-กระตุ้นนักธรณีวิทยาพิสูจน์ก้อนประหลาดคล้าย “แก้ว” หลังตั้งข้อสงสัยหนักไม่ต่างจาก “ลูกแก้วสารพัดนึก” ขณะที่นักวิทยาศาสตร์มองว่าไม่ใช่ “เรซิ่น” แต่ก็ไม่ใช่ผลึกของแร่ธรรมชาติ
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Wansa Raksasin” นำก้อนประหลาดไปลงโพสต์พร้อมมีข้อความว่า “ลุงขุดแบ็กโฮลึกประมาณ 2 เมตร เจอก้อนนี้หนัก 10 โลกว่า จะเป็นก้อนอะไรได้บ้าง” ทำให้มีบุคคลสงสัยพากันแชร์และคอมเมนต์
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ไปตามหาที่มาและทราบว่าอยู่บริเวณชุมชนบ้านหนองไผ่กลางดง หมู่ที่ 2 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมืองชลบุรี ซึ่งกำลังก่อสร้างโครงการวางท่อทำถนนของเทศบาลฯ เมื่อไปถึงพบกับนายสังวาลย์ วันชม อายุ 60 ปี เป็นพนักงานขับรถแบ็กโฮของบริษัทแห่งหนึ่ง จากนั้นนายสมเจตน์ ไตรรักษ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลดอนหัวฬ่อ ได้ชี้จุดในช่วงเกลี่ยดิน และพบคล้ายหินแต่เป็นสีใสคล้าย “ลูกแก้วสารพัดนึก” ก่อนถูกนำไปชั่งน้ำหนักถึง 13 กิโลกรัมเศษ
นายสังวาลย์ฯ บอกว่า เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมาในช่วงเย็น ได้นำรถแบ็กโฮเข้าไปเกลี่ยดินให้เสมอกัน แต่ได้พบวัตถุบางอย่างแวววาาวคล้ายเพชร จึงดึงขึ้นมา แต่ดึงไม่ขึ้น จึงใช้รถตักขึ้นมาก่อนนำไปล้างให้สะอาด จากนั้นทุกคนต่างมึนงงเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน และนำกลับบ้าน ทำให้ลูกสาวไปเจอจึงถ่ายรูปและโพสต์ถามเพื่อคลายข้อสงสัย เนื่องจากอยากทราบว่าเป็นวัตถุชนิดใด หากเป็นของมีค่าพร้อมยกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ แต่หากไม่มีค่าจะนำไปแกะสลักเป็นพระพุทธรูป
ด้าน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นว่า จากการไล่ข้อมูลจะเห็นว่ามีการทดลองเอาไฟลน และใช้มีดกรีด พบว่าไฟลนแล้วไม่ได้ไหม้ไฟ เป็นแค่คราบดำ ๆ และมีการแตกกะเทาะออกบ้าง จึงไม่น่าจะเป็นก้อนเรซิ่นที่ทำจากพลาสติก แต่น่าจะไปทางพวกแก้วมากกว่า และไม่น่าจะเป็นผลึกของแร่ธรรมชาติ เพราะมีฟองอากาศอยู่ข้างในค่อนข้างมาก ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นแก้วที่คนทำขึ้นมา แต่ต้องส่งให้นักธรณีวิทยาช่วยพิสูจน์อีกครั้งว่าโครงสร้างคืออะไร ซึ่งหลายคนคาดว่าเป็นแร่ควอตซ์ หรือ หินออบซิเดียน แต่ส่วนตัวมองว่าไม่น่าใช่ทั้งควอตซ์และออบซิเดียม.-สำนักข่าวไทย