รวบหนุ่มสลากฯอ้างเป็นผู้การกองปราบพบประวัติโยงเสธคนดัง

กรุงเทฯ 24 ก.ค.- กองปราบ รวบลูกน้อง อดีต เสธ.คนดัง อ้างตัวเป็นผู้การกองปราบขับเบนซ์ป้ายเดง ไปจอดในสนามบินดอนเมือง ตรวจค้นพบ อาวุธปืน พร้อมยุทธภัณฑ์จำนวนมากเงินสดกว่า 10 ล้านบาท 


พลตำรวจตรีจิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม แถลงผลจับกุม นายณัฐพงษ์ ธรรมทอง อายุ 37 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนกว่า  20 กระบอก เครื่องกระสุนกว่า  2,000 นัด ชุดอุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืน 6 ชิ้น กัญชา และไอซ์ อีกจำนวนหนึ่ง


พลตำรวจตรีจิรภพ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก มีเจ้าหน้าที่รับรถของท่าอากาศยานดอนเมือง แจ้งข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้ขับรถเบนซ์ จีแอลซี 250 ดี สีดำ ป้ายแดง เข้าไปฝากจอดที่อาคารจอดรถท่าอากาศยานดอนเมือง อ้างตัวว่าเป็นผู้บังคับการกองปราบปราม  และจะมาขอรับรถออก ในวันที่ 22 กรกฎาคม จึงส่งตำรวจกองปราบปรามไปตรวจสอบ และเมื่อค้นภายในรถเบนซ์ป้ายแดง พบเงินสด 7 ล้านบาท อาวุธปืน 5 กระบอก ไอซ์ และอุปกรณ์การเสพ และตราสัญลักษณ์กองปราบปราม ก่อนขยายผลเข้าตรวจค้นที่บ้านพักและที่ทำงานรวม 3 จุด ย่านรัชดาภิเษก พบเงินสดอีก 3 ล้านบาท พร้อมอาวุธปืนอีกจำนวนมาก แผ่นป้ายทะเบียนรถอีกหลายแผ่น และกัญชา ที่สำคัญคือตรวจพบเข็มแทงชนวนปืน  และกระบอกเก็บเสียงปืน 3 ชิ้น ซึ่งถือเป็นยุทธภัณฑ์ผิดกฎหมาย


ขณะที่สอบสวนผู้ต้องหา ให้การภาคเสธว่า มีอาชีพเป็นยี่ปั๊วขายสลากกินแบ่งรัฐบาล และทำธุรกิจเกี่ยวกับรถตู้โดยสารถูกต้องตามกฎหมาย โดยวิ่งระหว่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สมุทรสาคร และหมอชิต-สมุทรสาคร มีรถตู้ 50 คัน ส่วนอาวุธปืนทั้งหมดสะสมไว้เพราะความชอบ แต่เนื่องจากตนเป็นคนทำธุรกิจ จึงต้องมีอาวุธไว้ป้องกันตัว

อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากของกลางที่พบทั้งอาวุธปืนและอุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืนมีจำนวนมาก และยังพบว่าผู้ต้องหา เป็นลูกน้องอดีตนายทหารระดับ เสธ.คนดัง ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพล จึงจะขยายผลตรวจสอบว่าเคยมีประวัติก่อคดีหรือไม่ และเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ด้วย

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) และ 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน), มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก