หอประชุมทีโอที 24 ก.ค.-7 พรรคฝ่ายค้านข้องใจ ปธ.สภาฯ สั่งปิดประชุมทั้งที่มีวาระสำคัญ ชี้เกิดจาก ส.ส.รัฐบาลไม่เข้าประชุม ด้านเลขานุการประธานสภาฯ ตั้งข้อสังเกตฝ่ายค้านตีรวน ไม่ลงชื่อเข้าประชุม
นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน พร้อมตัวแทน 7 พรรคการเมือง ร่วมกันแถลงข่าวตั้งข้อสังเกตถึงการสั่งปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่ยังมีวาระสำคัญ ว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายที่มีการใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง ทั้งที่ยังเหลือเวลาในการประชุมอีก 6 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อนำไปเทียบกับเวลาที่ให้ฝ่ายค้านจะได้อภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาล ก็จะเห็นว่าการประชุมในวันนี้ (24 ก.ค.) เป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ อีกทั้งองค์ประชุมก็ครบ จากการลงชื่อของฝ่ายค้านที่จะสามารถดำเนินการต่อไปได้ ดังนั้นจึงมองว่าการสั่งเลื่อนญัตติในวันนี้ มีนัยแอบแฝง หรือมีความเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ใครหรือไม่ โดยเฉพาะญัตติเรื่องรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาลเป็นอย่างไร และจากนี้ไม่อยากให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก เพราะส่อให้เห็นว่าสภาฯ จะเดินไปทิศทางไหน โดยเฉพาะการผ่านกฎหมายสำคัญของประเทศ รวมถึงวันนี้ยังมีญัตติที่สำคัญหลายเรื่อง ทั้งรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการป้องและปราบปรามยาเสพติด (ป.ปส.) ในการปราบยาเสพติด ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญ แต่กลับสั่งปิดการประชุม
นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ อยากเรียกร้องไปยังนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในการสร้างบรรทัดฐานเกี่ยวกับการตรวจสอบองค์ประชุมว่าจะใช้วิธีการนับโดยการลงชื่อของสมาชิก หรือการแสดงตนในห้องประชุม เพราะนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ใช้วิธีการที่แตกต่างจากประธานสภาฯ ที่เคยวินิจฉัยว่าจะใช้วิธีการนับองค์ประชุมโดยไม่จำเป็นต้องลงชื่อ เพื่อให้เกิดความชัดเจน
ขณะที่นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวชี้แจงกรณีการนับองค์ประชุม ว่า ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรใช้ข้อบังคับการประชุมปี 2551 ข้อ 18 ที่ระบุว่าก่อนเข้าประชุม ส.ส.จะต้องลงชื่อในเอกสาร หรือแสดงตนตามที่ประธานในที่ประชุมกำหนด โดยต้องมีเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งถึงจะเปิดประชุมได้ แต่หากเป็นการลงมติจะใช้วิธีการนับสมาชิกในห้องประชุม ดังนั้นจึงขอชี้แจงไปยังฝ่ายค้านให้เข้าใจ
“สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นความผิดปกติของการประชุมสภาฯ การประชุมอย่าใช้การตีรวน เพื่อให้การประชุมเกิดความขัดแย้งกัน และขอย้ำว่า ส.ส.ทุกคนมีหน้าที่เท่ากัน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายรัฐบาล ซึ่งควรจะลงชื่อให้ครบทุกคน พร้อมขอให้สื่อมวลชนตรวจสอบสมาชิกที่มาลงชื่อว่ามาครบหรือไม่ การทำหน้าที่ของผู้แทนราษฏรต้องซื่อสัตย์สุจริต ส่วนสาเหตุที่มีการเลื่อนญัติในการประชุมวันนี้ เนื่องจากวิปรัฐบาลได้ประสานมายังประธานสภาฯ ว่าจะขอใช้เวลาในการเตรียมพร้อมก่อนการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.)” นายสมบูรณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
