กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – ผู้บริหารพฤกษา เรียลเอสเตท คาดตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง เติบโตร้อยละ 8 รับอานิสงค์จากการเปิดรถไฟฟ้าสายสีม่วง และ อีก 10 เส้นทาง หนุน 6 ปีข้างหน้าขยายตัวร้อยละ 5-7
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด ( มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพ และปริมณฑลในครึ่งปีแรก ลดลงร้อยละ 4.5 มีมูลค่า 171,222 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 179,344 ล้านบาท เนื่องจากในครึ่งปีแรก ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เน้นการขายสต็อกบ้านมากกว่าการเปิดโครงการใหม่ อย่างไรก็ตามยังมั่นใจว่าในปี 2559 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพ ฯ จะมีมูลค่ารวมประมาณ 383,183 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 8 จากปีก่อนที่มีมูลค่า354,799 ล้านบาท
โดยคาดว่าจำนวนประชากรที่มีความต้องการบ้านมีประมาณ 217,719 คน และจำนวนหน่วยที่คาดว่าจะขายได้ 106,204 ยูนิต และเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และ ทาวน์เฮ้าส์ จำนวนมาก โดยปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังสามารถเติบโตได้ มาจากการลงทุนด้านคมนาคมและการขนส่งมวลชนของภาครัฐ รวมถึงการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เริ่มให้บริการแล้ว นอกจากนี้การเปิดบริการรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ ครบ 10 เส้นทาง ในปี 2559-2564 จะเป็นผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตร้อยละ 5-7ต่อเนื่องใน 6 ปีข้างหน้า
ส่วนเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ ไม่มีผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ และ คาดว่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้นต่อภาคท่องเที่ยวเท่านั้น ซึ่งตามปกติภาคอสังหาริมทรัพย์สามารถขยายตัวได้ตามภาวะเศรษฐกิจ ยกเว้นมีเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ หรือ การชุมนุมทางการเมืองที่รุนแรง จึงจะถูกกระทบ
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด ( มหาชน) กล่าวว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงถึงร้อยละ 81 ของจีดีพี ยังกดดันธนาคารพาณิชย์ปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อ ในส่วนของบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท พบว่ามีอัตราการปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 7 สาเหตุเพราะฐานลูกค้าที่ขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทเพิ่มขึ้น และลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีหนี้จากโครงการรถยนต์คันแรก แต่คาดว่าภาวะดังกล่าวจะคลี่คลายดีขึ้น เนื่องจากภาระหนี้จากโครงการรถยนต์คันแรกจะครบ 5 ปีในสิ้นปี 2559
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังยังดีต่อเนื่อง หลังจากผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญผ่านไปด้วยดี ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเอกชน ประกอบกับสภาพคล่องในระบบยังมีอยู่สูงมาก ทำให้บริษัทวางแผนจะเปิดโครงการใหม่ 33-38 โครงการ
มูลค่าประมาณ 30,400-34,400 ล้านบาท ในครึ่งปีหลัง จากการเปิดตัวโครงการไปแล้ว 27 โครงการ มูลค่ารวม 19,641 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ ณ สิ้นเดือนมิ.ย.2559 อยู่ที่ 23,685 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ จำนวน 11,155 ล้านบาท และมีโครงการอยู่ระหว่างรอการขายรวม 168 โครงการ มูลค่า 76,084 ล้านบาท คาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีรายได้รวม 53,000 ล้านบาท และ มียอดขาย 51,000 ล้านบาท ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ หลังจากในครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขาย 21,635 ล้านบาท .- สำนักข่าวไทย