เอกชนตีปีกรับนโยบายหลักรัฐบาล

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – ก.พลังงานสั่ง ปตท.อุ้มราคาแอลพีจี -เอ็นจีวี ต่ออีก 2 เดือน พร้อมระดมสรรพกำลังร่วมแก้ภัยแล้ง พร้อมเตรียมออก “เมกะแพลน” สัปดาห์หน้า ด้านเอกชนหนุน 12 ข้อหลักของรัฐบาล ชี้ระบบNET METERING จะทำให้โซลาร์รูฟท็อฟเฟื่องฟู  


นายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับข้าราชการกระทรวงพลังงาน เพื่อกำหนดแนวทางบริหารนโยบายเร่งด่วน และเตรียมพร้อมการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ โดยระบุว่าได้ขอความร่วมมือ บมจ.ปตท.รับภาระในการช่วยอุดหนุนราคาแอลพีจีแก่กลุ่มหาบเร่แผงลอยกว่า 200,000 ราย เดือนละ 30 ล้านบาท และอุดหนุนราคาเอ็นจีวีแก่รถโดยสารสาธารณะต่อไปอีก 2 เดือน เพื่อช่วยลดภาระภาคประชาชน หลังจากนั้นทางรัฐบาลจะอุดหนุนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

สำหรับนโยบายหลัก 12 ด้านของรัฐบาล โดยข้อ 5.6.3  และ ข้อ 5.6.4 เกี่ยวข้องกับกระทรวงพลังงาน เช่น   ระบบหักลบหน่วยไฟฟ้าสุทธิในโครงการส่งเสริมพลังงานทดแทนโซลาร์รูฟท็อปนั้น ทางกระทรวงพลังงานจะมีการกำหนดรายละเอียดต่อไป โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเริ่มใช้ระบบนี้เมื่อใด 


“หลักการของนโยบายของผม คือ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ต้องมีพลังงานราคาถูก ให้ดำรงชีพอยู่ได้ หลังแถลงนโยบายรัฐบาล 1 สัปดาห์ จะประมวลนโยบายพลังงานแล้วออกมาเป็น MEGA PLAN  โดยในเรื่องไฟฟ้าต้องมีนโยบายประหยัดพลังงานด้วย ไม่ใช่ออกเป็นแคมเปญเล็ก ๆ รวมถึงให้นำกองทุนส่งเสริมอนุรักษ์มาช่วยประหยัดพลังงาน” นายสนธิรัตน์ กล่าว 

ส่วนเรื่องร้อน ๆ ของกระทรวงพลังงานไม่ว่าจะเป็นการปรับแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว และเรื่องที่เชฟรอนฯ จะฟ้องร้องอนุญาโตตุลาการ เพราะไม่เห็นด้วยกับการวางหลักประกันการรื้อถอนแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมที่อายุสัมปทานหมดลงนั้น ได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาและเจรจา โดยจะหารือเรื่องเหล่านี้สัปดาห์หน้า ยืนยันจะคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากที่สุด 

ขณะเดียวกันได้ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดช่วยหาแนวทางการแก้ปัญหาภัยแล้งของประชาชน โดยเฉพาะโครงการโซลาร์สูบน้ำบาดาล ว่าจะมีแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติมได้หรือไม่ ให้พลังงานจังหวัดสำรวจ โดยตนจะลงพื้นที่วันเสาร์นี้เพื่อร่วมเร่งรัดการดำเนินการ เพื่อช่วยเหลือเร่งด่วน ช่วยแก้ไขความเดือดร้อน


ส่วนแนวทางแก้ปัญหาเรื่องราคาปาล์มน้ำมันเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกระทรวงพลังงานได้มีการเสนอแผนระยะสั้นและระยะกลางให้กับคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติถึงแนวทางที่เหมาะสม โดยแผนระยะสั้นได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการช่วยเหลือตามแนวทางที่เคยดำเนินการไว้ ส่วนแผนระยะกลางจะมีการขับเคลื่อนการใช้ B10 และ B20 ให้ชัดเจน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจนและเหมาะสม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของโครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกแอลพีจีภาครัวเรือน ที่ ปตท.ร่วมรับภาระช่วยเหลือหาบเร่แผงลอยตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2562 ปตท.ได้ปรับการให้ส่วนลดการอุดหนุนตามการใช้จริงไม่เกินเดือนละ 150 กก. เป็นไม่เกิน 75 กก. โดยให้ส่วนลด 37.50 บาท/ถังขนาด 15 กก. โดยการอุดหนุนจะสิ้นสุดสิ้นเดือนสิงหาคม 2562  ซึ่ง ปตท.อุดหนุนโครงการนี้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558-มิถุนายน 2562 รวมแล้ว 1,936 ล้านบาท ส่วนเอ็นจีวีรถสาธารณะตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ระบุจะปรับขึ้นอีก 1 บาท/กก. ในวันที่ 16 กันยายน 2562 หรือปรับเป็น 12.62 บาท/กก. จากอัตราปัจจุบันอยู่ที่ 11.62 บาท/กก. 

สำหรับนโยบายหลักด้านพลังงานของรัฐบาลกำหนดไว้ในข้อ 5.6.3 จะเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยกระจายชนิดของเชื้อเพลิงทั้งจากฟอสซิลและจากพลังงานทดแทนอย่างเหมาะสม สนับสนุนการผลิตและการใช้พลังงานทดแทนตามศักยภาพของแหล่งเชื้อเพลิงในพื้นที่ เปิดโอกาสให้ชุมชนและประชาชนมีส่วนร่วมในการผลิตและบริหารจัดการพลังงาน ส่งเสริมให้มีการใช้น้ำมัน ดีเซลหมุนเร็ว B20 และ B100 เพื่อเพิ่มการใช้น้ำมันปาล์มดิบ และจัดทําแนวทางการใช้มาตรฐานน้ำมัน EURO5 ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน อาทิ เทคโนโลยีระบบไฟฟ้า อัจฉริยะ เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และระบบกักเก็บพลังงาน รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดโครงสร้าง ตลาดไฟฟ้ารูปแบบใหม่ อาทิ แพลตฟอร์มตลาดกลางซื้อขายพลังงานไฟฟ้า ตลอดจนโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้ารูปแบบใหม่ อาทิ ระบบหักลบหน่วยไฟฟ้าสุทธิพร้อมทั้งปรับปรุงระบบการกํากับ ดูแลกิจการด้านพลังงานให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม ราคาพลังงานสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและรูปแบบธุรกิจด้านพลังงานในอนาคต ดําเนินการให้มีการสํารวจและค้นหาแหล่งพลังงานใหม่ และร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาพลังงาน

ข้อ 5.6.4 ยกระดับโครงข่ายระบบไฟฟ้าและพลังงานให้มีความทันสมัย ทั่วถึง เพียงพอ มั่นคง และมีเสถียรภาพ โดยจัดทําแผนการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะทั้งระบบให้สามารถรองรับเทคโนโลยีด้านพลังงานสมัยใหม่ในอนาคตมุ่งเน้นการพัฒนาโครงข่ายภายในประเทศให้เชื่อมต่อระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันตก ตะวันออก เหนือ และใต้ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการระบบไฟฟ้าและพลังงานระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างมั่นคง และมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในภาคการผลิต

นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG กล่าวว่า เห็นด้วยกับ 2 นโยบายด้านพลังงาน โดยเฉพาะระบบแบบซื้ิอขายหักลบกลบหนี้ (NET METERING) ระบบนี้จะส่งเสริมให้เกิดโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับพันเมกะวัตต์ดีกว่านโยบายเดิมที่ซื้อไฟฟ้าส่วนเหลือด้วยราคา 1.68 บาท/หน่วย เพราะภาคเอกชนจะเร่งลงทุนผลิตใช้เองเป็นหลักและที่เหลือส่งเข้าระบบโดยใช้การหักหน่วยซื้อขาย วิธีนี้รัฐก็ไม่ต้องจ่ายเงินอุดหนุด้วย FIT แต่อย่างใด. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ครบ 72 ชม. ตึก สตง.ถล่ม ไม่หยุดค้นหาผู้รอดชีวิต

ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุตึก สตง.พังถล่ม แม้เวลาผ่านมาครบ 72 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่้ทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิต หวังมีปาฏิหาริย์

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้