นครราชสีมา 22 ก.ค.-“พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานปิดการสัมมนา ส.ส.พปชร. ย้ำมาให้กำลังใจ ส.ส.ในฐานะผู้สนับสนุนพรรค ส่วนจะสมัครเป็นสมาชิก พปชร.หรือไม่ รอตัดสินใจ หลังแถลงนโยบายรัฐบาล
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวปิดการสัมมนา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่โรงแรมโรงแรม 88 การ์มองเต้ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา โดยกล่าวว่า ขอชื่นชมคณะกรรมการบริหารพรรคและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้เห็นความสำคัญของเพื่อนสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะ ส.ส. ซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นจึงได้จัดให้มีการสัมมนาเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับทักษะการเป็นผู้นำทางการเมือง เพื่อสามารถนำทักษะดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ทั้งในและนอกสภาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ให้เกิดขึ้นกับบุคลากรภายในพรรคของเรา ครอบครัวของเรา ครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวพลังประชารัฐ เป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งเป็นการรวมพลังของภาคประชาชนกับภาครัฐเข้าด้วยกัน ถือเป็นการรวมพลังเพื่อนำพาประเทศชาติให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยังยืน พร้อมร่วมกันรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชนตลอดไป” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกล่าวปิดการสัมมนาอย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่ได้เชิญสื่อมวลชนออกจากห้อง และให้ พล.อ.ประวิตร พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐในห้องประชุม โดยใช้เวลาในการพูดคุยประมาณ 30 นาที
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่างวันที่ 25-26 กรกฎาคมนี้ ว่า เรื่องการอภิปรายเป็นเรื่องของพรรค แต่วันนี้ตนมาให้กำลังใจในฐานะผู้สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ส่วนการจะสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ยังไม่ตอบตอนนี้ รอหลังการแถลงนโยบายของรัฐบาลเสร็จสิ้นก่อน ทั้งนี้ไม่กังวลฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายคุณสมบัติของตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรี
พล.อ.ประวิตร กล่าวยืนยันว่า คุณสมบัติตนครบ และถามกลับว่า “จะอภิปรายทำไม” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีความสนใจตำแหน่งในพรรคหรือไม่ เช่น ตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค พล.อ.ประวิตร ยิ้มรับแต่ไม่ตอบอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพูดคุยนอกรอบในห้องประชุม พล.อ.ประวิตร ได้ให้กำลังใจและขอบคุณ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และได้เปรยถึงอนาคตทางการเมืองที่จะมาร่วมอุดมการณ์กับพรรค ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ได้ฝากกำชับให้พรรคพลังประชารัฐมีความรักและสามัคคีกันให้มาก.- สำนักข่าวไทย