นครราชสีมา 21 ก.ค.- “อุตตม” แจง ไม่ทิ้งนโยบายลดภาษีบุคคลฯ ยืนยันทำทันที มอบให้ สศค.ศึกษาให้รอบคอบก่อน พร้อมอุบชื่อขุนพล อภิปรายวันแถลงนโยบายรัฐบาล ไม่กังวลพร้อมแจงทุกประเด็น
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเลขาธิการพรรค เปิดเผยภายหลังการสัมมนาช่วงแรก ว่า ที่ประชุมได้พูดคุยกัน ถึงการปฏิบัติหน้าที่ในสภาช่วงแถลงนโยบายรัฐบาล รวมทั้งแชร์แนวทางและข้อเสนอแนะดี ๆ ซึ่งเบื้องต้นมีความเห็นร่วมกันแล้วในแนวทางต่าง ๆ รวมทั้งเนื้อหาว่าใครจะทำอะไร อย่างไร ทั้งนี้ บรรดา ส.ส.ไม่ได้มีข้อกังวลอะไร ทุกคนดูคึกคัก เพราะบางส่วนมีประสบการณ์ ในขณะที่คนใหม่ก็อยากมีส่วนร่วม และพรรคมีวอร์รูมที่พร้อมในการสนับสนุนข้อมูล เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้วางตัวบุคคลใดไว้เป็นขุนพลหลักในการอภิปรายในสภา นายอุตตม กล่าวว่า “บอกก่อนก็ไม่สนุกดิ”
ส่วนกรณีกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาร่วมงานสัมมนาพรรคในวันพรุ่งนี้นั้น นายอุตตม กล่าวว่า ผมยังไม่ได้รับการยืนยัน ส่วนหลังจากนี้จะมีรายชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้ามานั่งตำแหน่งสำคัญในพรรคหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรยืนยัน
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบ พล.อ.ประวิตร มีโปรแกรมมาตรวจราชการที่ จ.นครราชสีมาในวันพรุ่งนี้ แต่ไม่ได้รับการยืนยันว่าจะแวะมาหรือไม่ ซึ่งหากมาพรรคก็ยินดีต้อนรับ และถือเป็นขวัญกำลังใจให้ ส.ส.รวมถึงสมาชิกพรรค
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์นโยบายเรื่องภาษีที่พรรคพลังประชารัฐหาเสียงไว้ว่าจะลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% นั้น นายอุตตม กล่าวว่า เรื่องภาษี ต้องดำเนินการทั้งระบบ เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำดังนั้นเมื่อจะแก้ไขก็ต้องดูโครงสร้างภาษีทั้งระบบและรายได้ แบบนี้คนไทยจึงจะได้ประโยชน์ นอกจากนี้ยังต้องดูเรื่องของการสร้างรายได้ประกอบกันด้วย จึงขอยืนยันว่า ไม่ได้ถอยแต่ดูและศึกษาให้กว้างและครอบคลุม ซึ่งย้ำว่าทำทันทีไม่ใช่เลื่อนหรือขยายเวลาออกไป แต่เนื่องจากมีขั้นตอนในการปฏิบัติจึงต้องใช้เวลา ขณะนี้มอบหมายให้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เริ่มทำการศึกษาแล้ว และกำลังดูหลักเกณฑ์อยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไร
นายอุตตม ยังกล่าวถึงการแต่งตั้งที่ปรึกษาและผู้ช่วยรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการหารือ ยังไม่ได้ข้อยุติ เช่นเดียวกับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นบุคคลที่ปรากฎชื่อตามสื่อหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย