เมืองทอง 21 ก.ค. – กสอ.เปิดตัวการเชื่อมโยงแพลทฟอร์มการค้า T-goodTech และ J-goodTech พร้อม 5 Success Cases หวังดันมูลค่าการค้าไทย-ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี
นายเดชา จาตุธนานันท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากความเชื่อมั่นเทคโนโลยีระบบ e-Payment และการขนส่งที่รวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความนิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแพลทฟอร์มต่าง ๆ มากขึ้น ประกอบกับกระทรวงอุตสาหกรรมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับองค์การเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและนวัตกรรมภูมิภาคแห่งประเทศญี่ปุ่น (SMRJ) เพื่อช่วยเหลือ ส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้มีศักยภาพและมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดโครงการพัฒนา Digital Value Chain ที่ใช้ในการผลักดันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสู่ห่วงโซ่มูลค่าระดับโลก
ทั้งนี้ กสอ.ได้ทำการพัฒนาแพลทฟอร์ม T-GoodTech โดยอาศัยต้นแบบจากแพลทฟอร์ม J-GoodTech ประเทศญี่ปุ่น ที่มีฐานข้อมูลสมาชิกกว่า 20,000 ราย เพื่อใช้เป็นช่องทางการจับคู่ระหว่างธุรกิจกับธุรกิจระหว่างวิสาหกิจไทยด้วยกันเอง และระหว่างวิสาหกิจไทยกับวิสาหกิจทั่วโลกเป็นเวทีสำหรับแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านการประกอบธุรกิจ รวมถึงเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดและทดสอบตลาดเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปีงบประมาณ 2562 กสอ.ได้ทำการประชาสัมพันธ์แพลทฟอร์ม T-GoodTech ให้กับผู้ประกอบการต่าง ๆ ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิก และปัจจุบันมีฐานข้อมูลผู้ประกอบการมากกว่า 4,000 ราย แบ่งเป็นข้อมูลผู้ประกอบการที่มาจากฐานข้อมูลสมาชิกจาก J-GoodTech กว่า 1,300 ราย และข้อมูลผู้ประกอบการที่มาจากการประชาสัมพันธ์ของ กสอ.กว่า 2,700 ราย
สำหรับการจัดงานสัมมนาครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งปีนี้ กสอ.พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 50 กิจการ และคัดเลือกเป็นสถานประกอบการยอดเยี่ยม 5 กิจการ ประกอบด้วย บริษัท เจ็นเซิฟ จำกัด บริษัท ไทยอินเตอร์แมท จำกัด บริษัท ธนาศิริวัจน์ กรุ๊ป จำกัด บริษัทสเปเชียลเทค จำกัด และบริษัท พัฒนกลการ เอ็นจิเนียริง จำกัด โดยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก SMRJ มาถ่ายทอดแนวทางพัฒนาองค์กรและส่งเสริมการค้าให้สามารถเชื่อมโยงสู่ห่วงโซ่อุปทานระดับโลกได้อย่างยั่งยืน ซึ่งการดำเนินกิจกรรมนี้ก็เป็นหนึ่งในแนวทางส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการตลาดนำการผลิตและนวัตกรรมนำการผลิตของ กสอ.เพื่อต่อยอดและเสริมเอสเอ็มอีไทยให้เข้มแข็งสามารถแข่งขันกับได้ทั้งในเวทีระดับประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งคาดว่าผลสำเร็จจากโครงการฯ วันนี้จะสามารถช่วยผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างเอสเอ็มอีไทยและผู้ประกอบการญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี.-สำนักข่าวไทย