14 ก.ค.-ความเป็นไปได้ที่กลุ่ม “ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป” จะซื้อทีมในสโมสรไทยลีกมีโอกาสมากน้อยแค่ไหน ไปติดตามได้จากรายงานพิเศษ
หลังจาก รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสร “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ยอมรับว่า “ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป” กลุ่มทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ของ ชีค มันซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน มหาเศรษฐีจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เจ้าของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้ความสนใจซื้อสโมสรในไทยลีกจริง ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นทีมเอสซีจี เมืองทอง แต่ต้องการเข้ามาถือหุ้นเท่านั้น ไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และได้มองไว้หลายสโมสรโดยเป็นโครงการระยะยาว คงไม่ได้คำตอบหรือทีมในเร็ววันนี้ ซึ่งจากมุมของผู้บริหารทีมจากไทยลีก และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มองเป็นสัญญาณที่ดีของฟุตบอลไทยที่ทำให้เพิ่มมูลค่าทางการตลาดเพิ่มขึ้น แต่โอกาสที่จะเป็นไปได้หรือไม่นั้นมองว่า โอกาสค่อนข้างที่จะเป็นไปได้ยาก แต่ก็สามารถทำได้ โดยต้องเป็นไปตามกฏหมายไทย ว่าถือหุ้นได้สัดส่วนเท่าไหร่ หรือจะเข้ามาเพื่อเป็นพาร์ทเนอร์
สำหรับ “ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป”กำลังมองหาซื้อสโมสรต่างๆทั่วโลก และกำลังขยายอิทธิพลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ โดยก่อนหน้านี้กลุ่มนี้ได้ซื้อทีมนิว ยอร์ก ซิตี้ เอฟซี ในศึกเมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา,เมลเบิร์น ซิตี้ เอฟซี เอลีกออสเตรเลีย,คลับ แอตเลติโก้ ตอร์คี ในลีกอุรุกวัย, โยโกฮามา เอฟ มารินอส ในเจลีก,คิโรน่า สโมสรลาลีกา สเปน และเสฉวน จิวหนิว ในไชน่า ลีกทู ของจีน
โดยมูลค่าฟุตบอลไทยตั้งแต่ปี 2560-2563 แบ่งเป็นส่วนของ ที่ แพลนบี คว้าสิทธิดูแลสิทธิ์ประโยชน์การันตีรายได้ให้สมาคมกีฬาฟุตบอลและบริษัทพรีเมียร์ลีกไทยแลนด์ 4 ปี ภายใต้วงเงิน 3,240 ล้านบาท ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด จากบริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด 4 ปี 4,200 ล้านบาท รวม 7,440 ล้านบาทยังไม่รวมงบทำทีมของแต่ละสโมสรในไทยลีก 16 ทีมในช่วงเลคแรกปีนี้ รวมเป็นเงินถึง 2,380 ล้านบาท และยังไม่รวมการซื้อขายนักเตะในเลคที่ 2 เบ็ดเสร็จมูลค่าของฟุตบอลไทยลีกรวมประมาณ 1 หมื่นล้านบาทในช่วงระยะเวลา 4 ปี ซึ่งเป้าหมายของสมาคมกีฬาฟุตบอล และบริษัทไทยลีกจะขยายฟุตบอลไทยด้วยการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไปยังต่างประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่าของวงการฟุตบอลไทย ซึ่งเป็นไปได้ที่กลุ่ม”ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป”มองว่าลีกฟุตบอลไทยกำลังเติบโต.-สำนักข่าวไทย