สสนก.เตือนเขื่อนน้ำน้อยขั้นวิกฤติ 18 แห่ง

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – กรมชลฯ ชี้ฝนตกน้อยกว่าค่าปกติ ส่งผลน้ำไหลลงเขื่อนน้อย วอนประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด หวังเก็บน้ำทุกหยดเข้าเขื่อนอีก 38, 000 ล้าน ลบ.ม. สสนก.เตือนเขื่อนน้ำน้อยขั้นวิกฤติ 18 แห่ง


นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน  กล่าวว่า จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาว่ามรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนและประเทศไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ยและชายฝั่งของประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะนี้ โดยบริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีการกระจายของฝนมากกว่าภาคอื่น ๆ แต่ปริมาณฝนที่ตกยังคงน้อยกว่าค่าปกติ ส่งผลให้้ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ น้อยลง

สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ปัจจุบัน (11 ก.ค.) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น 37,018 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือคิดเป็นร้อยละ 49 ของความจุอ่างฯ รวมกันทั้งหมดมีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 13,093 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ ยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันมากกว่า 38,000 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลักได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกัน 8,596 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 35 ของความจุอ่างฯ รวมกันมีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,900 ล้าน ลบ.ม. ซึ่ง 4 เขื่อนหลัก ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 16,200 ล้าน ลบ.ม.


ทางด้านแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ ทั่วประเทศส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย โดยแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ 358 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 7.95 เมตร มีแนวโน้มลดลงและยังคงระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 60 ลบ.ม./วินาที เพื่อรักษาระบบนิเวศ ทั้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลองให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนที่ อ.บางไทรมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 67 ลบ.ม./วินาที

ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ติดตามสภาวะอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ คาดการณ์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำและสภาพน้ำท่าในแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขาต่าง ๆ พร้อมกำชับให้ทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศเก็บกักน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด พร้อมบูรณาการทุกหน่วยงานลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนและทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อให้มีปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียงพอสำหรับอุปโภค-บริโภคและรักษาระบบนิเวศ

สำหรับกรณีพื้นที่ปลูกข้าวนาปีบริเวณท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ ในเขตโครงการชลประทานหนองหวายเสี่ยงขาดแคลนน้ำ เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์อยู่ในเกณฑ์น้อยต้องสำรองน้ำไว้ใช้เฉพาะการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเท่านั้น ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวายได้ประชุมกับผู้แทนกลุ่มผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนเพื่อวางแนวทางการใช้น้ำจากฝายหนองหวายที่มีอยู่ประมาณ 17 ล้าน ลบ.ม. ส่งน้ำแบบรอบเวรอย่างเคร่งครัด ทำให้การกระจายน้ำเข้าสู่พื้นที่เป็นไปอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม


ด้านสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) เตือนสถานการณ์เขื่อนมีน้ำใช้การน้อยขั้นวิกฤติ ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์มีน้ำ 0% เขื่อนสิรินธรมีน้ำ 1% เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีน้ำ 6% เขื่อนคลองสียัดมีน้ำ 6% เขื่อนสิริกิติ์มีน้ำ 7% เขื่อนภูมิพลมีน้ำ 8% เขื่อนจุฬาภรณ์มีน้ำ 9% เขื่อนกระเสียว 10% เขื่อนแควน้อยมีน้ำ 12% เขื่อนทับเสลามีน้ำ 13% เขื่อนขุนด่านปราการชลมีน้ำ 13% เขื่อนลำพระเพลิงมีน้ำ 14%  เขื่อนแม่กวงมีน้ำ15%  เขื่อนนฤบดินทรจินดามีน้ำ16% เขื่อนวชิราลงกรณ์มีน้ำ 17% เขื่อนน้ำพุงมีน้ำ18% เขื่อนห้วยหลวงมีน้ำ 18%  เขื่อนศรีนครินทร์มีน้ำ 19% ของความจุอ่าง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน